ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สสส.ชวนชุมชนท้องถิ่นให้ดูแลกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางกลับบ้านด้วยความรักเยี่ยงนักรบกลับมาตุภูมิ แนะรณรงค์ให้คนในชุมชนล้างมือเป็นนิสัย หาปรอทวัดไข้ราคาถูกติดบ้านไว้ เตรียมส่งกิ๊ฟเซ็ตถึงผู้ที่กักตัวเองอยู่ในบ้าน แทนคำขอบคุณ ส่วนชุมชนท้องถิ่นหลายแห่งตื่นตัว รวมตัวกันเย็บหน้ากากอนามัยแจกคนในชุมชน

หลังจากกรุงเทพมหานครมีมาตรการปิดสถานที่ต่างๆ 26 ประเภทตั้งแต่ 22 มีนาคม – 12 เมษายน เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการต่างๆ ต้องหยุดกิจการ ส่งผลให้ประชาชนที่มาทำงานในกรุงเทพฯ เดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก

น.ส.ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ความเห็นว่า เรื่องนี้รับมือได้ไม่ยาก ชุมชนท้องถิ่นต้องต้อนรับลูกหลานกลับบ้านด้วยความรักความเมตตา เยี่ยงนักรบคืนสู่มาตุภูมิ ขณะเดียวกันลูกหลานต้องแสดงความรักตอบ ปฏิบัติตามคำร้องขอของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยการกันตัวเองออกจากผู้สูงอายุในบ้าน แยกของกินของใช้กับคนอื่น ซึ่งต้องทำให้ได้ 14 วันต่อเนื่องกัน

น.ส.ดวงพร กล่าวด้วยว่า สถานการณ์เช่นนี้ ชุมชนอย่าแสดงความรังเกียจผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงในชุมชน เพราะโควิด-19 ไม่ได้ติดกันง่ายๆ ดังนั้นท้องถิ่น อย่าง อบต.หรือ เทศบาล ต้องสร้างความเข้าใจกับคนในชุมชน พร้อมกับร่วมกันรณรงค์ให้แต่ละครัวเรือนมีสบู่และที่ล้างมือ เพื่อสร้างนิสัยล้างมือเป็นกิจวัตรทั้งก่อนออกบ้านและเข้าบ้าน เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการล้างมือนั้น ช่วยลดการติดเชื้อได้

“ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้ทุกท้องถิ่นเพิ่มการรณรงค์ให้ทุกบ้านมีปรอทวัดไข้ไว้คู่บ้าน ราคาไม่แพง แค่ 35 บ้านก็หาซื้อได้แล้ว” ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน แนะนำและเพิ่มเติมว่า กลไกสำคัญที่จะช่วยลดการแพร่ระบาดในครั้งนี้ได้ คือกรรมการหมู่บ้าน และอสม. เพราะรู้ความเคลื่อนไหวของสมาชิกทุกคนในชุมชน การเข้าไปพูดคุย ตักเตือน ตรวจวัดร่างกาย เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สสส. กล่าวด้วยว่า ทางสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชนซึ่งให้การสนับสนุนการทำงานแก่ อปท.ที่เป็นภาคีเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่กว่า 2,800 แห่ง ได้เตรียมกิ๊ฟเซ็ตประกอบด้วย ปรอทวัดไข้ แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ยาสระผม และถุงดำ ให้แก่ผู้ที่กักตัวเองอยู่ที่บ้าน เพื่อแทนคำขอบคุณ สร้างขวัญและกำลังใจ พร้อมกันนั้น หลังจากนี้ทางสำนักฯ ได้เตรียมให้การสนับสนุนแก่ท้องถิ่นที่มีความพร้อมให้การทำโครงการเฝ้าระวังโรคติดต่อและโรคอุบัติใหม่โครงการละ 50,000 บาทด้วย

ทางด้าน นางสุขกาย ผลนาค ปลัด อบต.สร้างถ่อ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ตื่นตัวกันมาก ทาง อบต.ได้เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านหอกระจายข่าวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด พร้อมกันนั้นก็ได้ชวนชาวบ้านมาเย็บหน้ากากอนามัย เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง ส่วนพนักงานของอบต.สร้างถ่อทุกคนก่อนเข้าสำนักงานต้องล้างมือให้สะอาด ขณะเดียวกันได้สั่งปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของตำบลไปทั้งหมดแล้วด้วย