ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ข้อกำหนดมาตรการผ่อนคลายระยะ 2 มีผล 17 พ.ค. 2563 รายละเอียดชัดเจนทั้งปรับเวลาเคอร์ฟิว การผ่อนปรนกิจการ การผ่อนผันใช้อาคารโรงเรียน-สถานศึกษา

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ( ฉบับที่ 7) ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเนื้อหาโดยสรุปเป็นไปตามมาตรการผ่อนคลายระยะที่2 ตามที่ ศบค.แถลงเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา

ใจความสำคัญ คือ

1.การห้ามออกนอกเคหสถาน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 23.00-04.00 น. และการให้ข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถานตามข้อกำหนด(ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 10 เม.ย.2563 ยังคงใช้ต่อไป

2.การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถานศึกษา ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจพิจารณาผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน เฉพาะที่ดำเนินการในลักษณะของการให้ความช่วยเหลือ การสงเคราะห์ อุปถัมภ์ เด็กกำพร้า เด็กยากไร้ เด็กด้อยโอกาส และอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงได้หากปล่อยให้เด็กอาศัยอยู่ในสถานที่พักอาศัยของตน หรือที่อื่น หรือเป็นการใช้อาคารสถานที่ดังกล่าว เพื่อการทำกิจกรรมอันเป็นประโยชน์สาธารณะตามที่ผู้ว่าฯ หรือผุ้ว่าราชการจังหวัดอนุญาต แต่ยังงดเว้นการใช้เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ หรือฝึกอบรม

3.การผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้

อ่านเพิ่มเติม : ราชกิจจานุเบกษา ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ( ฉบับที่ 7)

4.การดำเนินการตามมาตรการป้องกันและการจัดระเบียบ ให้เจ้าของหรือผุ้จัดการสถานที่ตามข้อ 3 (1) และ(2) มีหน้าที่รัรบผิดชอบในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งดำเนินการจัดระเบียบและระบบต่างๆตามคำแนะนำ เงื่อนไข ฯลฯ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบ หากละเมิดสามารถสั่งปิดสถานที่นั้นเป็นการชั่วคราวเฉพาะราย ในกรณีผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งปิดสถานที่ไว้เป็นการชั่วคราว หากเจ้าของดำเนินการตามมาตรฐาน ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี สั่งเปิดำเนินการสถานที่ดังกล่าวได้

5.เพื่อให้มาตรการป้องกันโรคเป็นไปในแนวทางเดียวกันให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มีคำสั่งปิดสนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามการแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกันเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่าเป็นสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค รวมทั้งดำเนินการอื่นใดให้สอดคล้องกับข้อกำหนดนี้

ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.2563 เป็นต้นไป