ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมอนามัย เตือนกรณีนำไก่ฝังดินและหยอดกะทิให้กินก่อนนำมาปรุงอาหาร นอกจากทรมานสัตว์ ยังละเมิดกฎหมาย หนำซำคนชำแหละ หากมีบาดแผลเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียเมลิออยโดสิส ทำให้เกิดไข้เฉียบพลัน ปอดอักเสบ

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีรายงานข่าวการนำไก่ฝังในดินแล้วให้กินกะทิ ก่อนนำมาปรุงอาหาร ว่า เรื่องนี้ประเด็นหลักอยู่ที่การทรมานสัตว์ อย่างไรก็ตาม ในแง่ของสุขอนามัยแล้วต้องบอกว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง การเอาไก่ไปฝังในดินที่มีความอับ ชื้น ร้อน ทำให้เชื้อโรคในดินเข้าไปในตัวไก่ได้ หากคนไปสัมผัสโดยตรง โดยเฉพาะคนที่มีแผลอาจจะได้รับเชื้อเข้าไปได้ เช่น เชื้อแบคทีเรียเมลิออยโดสิส หากเข้าร่างกายจะทำให้เกิดไข้เฉียบพลัน ทำให้เกิดปอดอักเสบ เป็นหนองในปอดได้ แต่ก็ต้องย้ำว่าที่ผ่านมาไม่มีรายงานการเจ็บป่วยแบบนี้อาจเพราะว่าคนที่สัมผัสไม่มีบาดแผลที่จะเป็นช่องทางการรับเชื้อ หรือที่ผ่านมาไม่มีใครทำเช่นนี้ เป็นต้น นอกจากนี้ ตามสิ่งแวดล้อมยังมีเชื้อโรคอีกมาก เช่น โรคฉี่หนูก็เป็นโรคที่พบได้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ถ้าบริเวณนั้นๆ มีเชื้อนี้อยู่ แล้วยิ่งในช่วงหน้าฝน น้ำขังพื้นดินชื้นแฉะ ก็มีโอกาสเจอโรคเหล่านี้ได้ด้วย

นพ.บัญชา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ปัจจุบันเรามีกฎหมายเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ และการชำแหละสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะเอาไว้ หากชำแหละเพื่อการขาย จะต้องทำในโรงฆ่าสัตว์ แต่ถ้าประชาชนทั่วไปที่เลี้ยงกันเอง ชำแหละกันเอง ก็ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาด ต้องล้างมือให้สะอาด และควรสวมถุงมือ ไม่ให้มีการสัมผัสกับสัตว์โดยตรงระหว่างที่ชำแหละเนื้อสัตว์ ส่วนในเนื้อสัตว์นั้นหากมีการปรุงสุกก่อนรับประทานอาหารก็ถือว่าไม่มีอันตราย

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องเตือนกันไม่เหมาะสม ตามที่มีรายงานในข่าวเห็นว่าขนไก่ร่วงด้วย ซึ่งยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้าสู่ผิวหนังไก่ได้ดีขึ้น และมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อได้มาก จึงไม่แนะนำ ขอว่าอย่าทำแบบนี้” นพ.บัญชา กล่าว และว่า ที่ผ่านมามีอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะค่อนข้างมาก อาทิ โรคอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ เป็นต้น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง