ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติไฟเขียวจัดสมัชชาสุขภาพกรุงเทพฯครั้งแรก ตั้งคณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพทั้งใน กทม.และทุกจังหวัด

วันที่ 28 ก.ย. ที่อาคารสุขภาพแห่งชาติ มีการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 5/2563 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม ที่ประชุมได้รับทรายความคืบหน้าของงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 13 ที่จะจัดในวันที่ 16 – 17 ธันวาคมปีนี้ ว่ามี 2 ระเบียบวาระสำคัญที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกสมัชชากว่าสองพันคนทั้วประเทศ คือ เรื่อง “ความมั่นคงทางอาหารในภาวะวิกฤต และการบริหารจัดการวิกฤตสุขภาพ บทเรียนโควิด-19” และที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบ “ประกาศคำนิยามปฏิบัติการของคำที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care)” รวมทั้งเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ โดยมี นพ.มงคล ณ สงขลา และผู้ทรงคุณวุฒิภายในจังหวัดเป็นประธานร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการของแต่ละจังหวัด หวังให้กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ เป็นเมืองสุขภาวะ หรือ Healthy City ของประเทศ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล ประธาน คสช. กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้มีมติให้มีการจัดสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร และสมัชชาสุขภาพจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศอย่างน้อยปีละครั้ง และได้แต่งตั้งคณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร (คจ.สก.) มี นพ.มงคล ณ สงชลา อดีต รมว.และปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และแต่งตั้งคณะกรรมการสนับสนุนการจัดและขับคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพของแต่ละจังหวัด (คจ.สจ.) มีผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นผู้แทนของภาคประชาชนเป็นประธานร่วม เพื่อเป็นเวทีหยิบยกปัญหาและประเด็นการพัฒนาของแต่ละพื้นที่มาระดมข้อคิดเห็นของทุกภาคส่วนสรุปเป็นนโยบายสาธารณะของแต่ละจังหวัดอย่างมีส่วนร่วม แล้วรายงานมติต่อ คสช. เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีหรือประสานหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องร่วมกันขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องต่อไป

นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการ คสช. เปิดเผยว่า สมัชชาสุขภาพเป็นกลไกสร้างกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม เป็นประชาธิปไตยทางตรงที่จะเชื่อมโยงพลังทางปัญญา พลังทางสังคม และพลังทางการเมือง ที่สำคัญยังเป็นกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันจากการปฏิบัติจริงในพื้นที่ ที่ผ่านมาเรามีการจัดสมัชชาจังหวัดกันอยู่แล้วในพื้นที่ แต่ละจังหวัดเปิดเวทีชวนผู้คนที่เกี่ยวข้องแต่ละประเด็นมาหาทางออกในรูปชวนคิด ชวนคุย ชวนทำ เช่น เรื่องท้องไม่พร้อมในเยาวชน ยาเสพติด เกษตรอินทรีย์ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แม้กระทั่งการเรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเรื่องความมั่นคงทางอาหารในภาวะวิกฤต แต่ครั้งนี้เรากำลังจะยกระดับให้กระบวนการนี้มีความเข้มแข็งขึ้น มีการสานพลังจากภาคส่วนต่างๆ ในการขับเคลื่อนมติหรือผลสรุปร่วมกันมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานครที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปลายปีนี้พร้อมๆ กับสมัชชาสุขภาพของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ

เลขาธิการ คสช. กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติในวันนี้ ยังได้รับทราบผลการขับเคลื่อนและก้าวต่อไปของแผนรวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด-19 ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2563 โดย สช. ได้ประสานงานกับองค์กรภาคีความร่วมมือ 26 องค์กรสนับสนุนให้ทุกตำบลหรือชุมชนจัดทำข้อตกลงร่วมหรือธรรมนูญประชาชนสู้ภัยโควิด-19 ที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกองทุนหลักประกันสุขภาพให้การสนับสนุน และก้าวต่อไปของการขับเคลื่อนแผนงานนั้น ทุกองค์กรเห็นร่วมกันว่าจะหนุนให้แต่ละจังหวัดเตรียมการเปิดเวทีสมัชชาสุขภาพประชาชนและสภาองค์กรชุมชนขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อรับมือกับโควิด-19 ที่อาจเกิดการระบาดระลอกใหม่หลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวและแรงงานต่างชาติเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยยกระดับการขับเคลื่อนเป็น “รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ สู้วิกฤตสุขภาพและเศรษฐกิจ” ต่อไป