ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายลูกจ้างเจ้าพนักงานสาธารณสุข วุฒิป.ตรี ยื่นหนังสือ รองปลัดสธ. ขอช่วยเหลือ 3 ประเด็นปัญหาบุคลากร

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นายริซกี สาร๊ะ รักษาการโฆษกสภาการสาธารณสุขชุมชน กล่าวถึงการติดตามปัญหาการบรรจุข้าราชการของบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข ว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมาได้เข้าร่วมการประชุมวิชาชีพสาธารณสุข ซึ่งในวันเดียวกันทางเครือข่ายลูกจ้าง เจ้าพนักงานสาธารณสุขวุฒิ ปริญญาตรี ได้เข้าพบและยื่นหนังสือต่อ นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รักษาราชการรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง 3 ประเด็น คือ 1.เครือข่ายเจ้าพนักงานสาธารณสุข (ลูกจ้างชั่วคราว/พนักงานกระทรวงสาธารณสุข/พนักงานราชการ) แม้จะยังไม่มีรายชื่อในการบรรจุทั้ง 3 รอบ แต่เครือข่ายฯ ขอสงวนอัตราและตำแหน่ง ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติในเบื้องต้นแล้ว ไว้ก่อน โดยไม่เกลี่ยตำแหน่งไปให้กลุ่มอื่น ๆ

2.ให้กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาสั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ที่มีเจ้าพนักงานสาธารณสุข (ลูกจ้างชั่วคราว/พนักงานกระทรวงสาธารณสุข/พนักงานราชการ)วุฒิปริญญาตรี ปรับการจ้างให้ตำแหน่งตรงกับวุฒิการศึกษา คือ ปรับจากตำแหน่ง “เจ้าพนักงานสาธารณสุข” เป็น ตำแหน่ง “นักวิชาการสาธารณสุข” เพื่อให้ตรงกับมาตรฐานกำหนดตำแหน่งของสำนักงาน ก.พ. และ3. เมื่อปรับการจ้างให้ตำแหน่งตรงกับวุฒิการศึกษา แล้ว ขอให้กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาบรรจุสมาชิกเครือข่ายฯ ทุกคน เป็นข้าราชการ ตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุข ตามเลขตำแหน่งที่ได้ขอสงวนไว้เบื้องต้น ตามข้อมูลขาขึ้นจาก สสจ.ทุกจังหวัด ที่ได้สำรวจมาแล้ว

“เบื้องต้นจากการเข้าพบท่านรองปลัดสธ. นพ.สุระ ในประเด็นปัญหาต่างๆ ทางกระทรวงรับรู้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และท่านนพ.สุระ ได้ยืนยันว่าตำแหน่งที่ ครม.อนุมัติมาแล้วนั้นยังคงอยู่ ซึ่งปัญหาของกลุ่มเครือข่ายลูกจ้าง จพ.วุฒิ ป.ตรี ต้องรอ ก.พ.พิจารณาก่อนว่าจะมีความเป็นไปได้ในทิศทางใด ถ้าไม่สามารถบรรจุในตำแหน่ง เจ้าพนักงานสาธารณสุขได้ ก็ต้องขอให้ ก.พ. พิจารณาปรับตำแหน่งให้เป็นไปตามระเบียบของกฎเกณฑ์ ก.พ. เพื่อให้กลุ่มเครือข่ายลูกจ้าง จพ.วุฒิ ป.ตรี ได้รับการบรรจุตามที่มติ ครม.ได้อนุมัติไว้แล้ว ทั้งนี้การดำเนินการต่างๆอาจใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากเป็นการจ้างที่ผู้จ้างและผู้ถูกจ้าง ได้ทำผิดระเบียบกฎเกณฑ์ตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม ธ.ค.นี้น่าจะทราบแนวทางคร่าวๆ รวมทั้งกรณีกลุ่มตกหล่นนอกเหนือจากการบรรจุข้าราชการรุ่นโควิดทั้ง 3 รอบ ก็จะมีการพิจารณาต่อไป ซึ่งทางสภาจะติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง” นายริซกี กล่าว