ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่พบผู้ป่วยรวม 8,357 ราย(15 ธ.ค.63 – 19 ม.ค.64 ) จากสะสมทั้งหมด 12,594 หายป่วยแล้ว 5,416 ราย กำลังรักษาในรพ. 1,843 ราย อยู่ รพ.สนามและอื่นๆ 1,196 ราย อาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 13 ราย

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 171 ราย ติดเชื้อในประเทศ 158 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 13 ราย โดยตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 12,594 ราย หายป่วยแล้ว 9,356 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยังคงเดิมสะสมอยู่ที่ 70 ราย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 171 ราย เป็นการค้นหาเชิงรุกจำนวน 125 ราย

สำหรับผู้ป่วยระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63 – 19 ม.ค.64 ขณะนี้สะสมที่ 8,357 ราย โดยติดเชื้อในประเทศ 3,722 ราย คัดกรองเชิงรุก 4,107 ราย มาจากต่างประเทศ 528 ราย โดยหายป่วยแล้ว 5,416 ราย กำลังรักษาในรพ. 1,843 ราย อยู่รพ.สนามและอื่นๆ 1,196 ราย โดยมีผู้ป่วยอาการหนักที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 13 ราย ส่วนการเสียชีวิตในระลอกใหม่มี 10 ราย โดยคิดอัตราการเสียชีวิต 0.12% ถือว่าต่ำมาก  สำหรับการระบาดรอบนี้พบผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 40%  โดยครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยเป็นสัญชาติไทย 49.88% ส่วนเมียนมา 45.11% กัมพูชา 1.73%  และอื่นๆ อีก3.28%

นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า หากพิจารณาทิศทางการระบาดรายสัปดาห์ โดยสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนม.ค.2564 ซึ่งเก็บข้อมูลได้ 3 วันยังไม่ครบ 7 วัน ก็ พบว่า เส้นกราฟไม่สูงชันกว่าเดิม แสดงว่าเป็นความหวังว่าการควบคุมโรคจะส่งผล ส่วนจำนวนผู้ป่วยรายวันจากการค้นหาเชิงรุกจะเจอจำนวนมาก เพราะเป็นการค้นหาในชุมชน ส่วนการพบผู้ป่วยในสถานพยาบาลจะเริ่มลดลง ภาพรวมเรียกว่ามีลักษณะคงตัว

สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อ ภาพรวมพบ 61 จังหวัด ซึ่งจะเห็นว่า ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2563 (สัปดาห์ที่52) พบ 41 จังหวัด จากนั้น ม.ค.64 เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1 พบ 39 จังหวัด จากนั้นสัปดาห์ที่ 2 ลดลงเหลือ 30 จังหวัด และสัปดาห์นี้เพิ่งมาได้แค่ 3 วันมี 17 จังหวัด แสดงว่าแนวโน้มจำนวนจังหวัดรายสัปดาห์เริ่มลดลง ถือเป็นสัญญาณที่ดีจากการป้องกันและควบคุมโรค ที่เริ่มเห็นผล และเป็นโอกาสที่จะผ่อนคลายในส่วนมาตรการ เพื่อให้ประชาชนดำรงชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ แต่มาตรการนิวนอร์มอลยังคงอยู่

ทั้งนี้ รายละเอียดของการพบผู้ติดเชื้อในประเทศวันนี้ 171 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 158 ราย โดยมาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 33 ราย แบ่งเป็น สมุทรสาคร 18 ราย กรุงเทพ 9 ราย ราชบุรี 1 ราย สมุทรปราการ 1 ราย ระยอง 3 ราย นนทบุรี 1 ราย ส่วนมาจากการคัดกรองในชุมชน 125 ราย พบว่าสมุทรสาคร 120 ราย กรุงเทพ 4 ราย และนนทบุรี 1 ราย ซึ่งการคัดกรองในชุมชนถือเป็นอาวุธที่ใช้มากในการระบาดรอบนี้ โดยครั้งแรกก็มีการตรวจเชิงรุกเช่นกัน แต่ครั้งนั้นตรวจเป็นหมื่นก็ไม่เจอ แสดงว่าลักษณะการแพร่กระจายเชื้อแตกต่างกัน

นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่และสะสมวันที่ 18 ธ.ค.63-19 ม.ค.64 พบว่า สมุทรสาคร ยังมีผู้ป่วยสะสม 4,656 ราย รองลงมา ชลบุรี กรุงเทพฯ ระยอง สมุทรปราการ จันทบุรี นนทบุรี อ่างทอง เป็นต้น สำหรับพื้นที่สมุทรสาคร จะพบตัวเลขผู้ป่วยมาก เพราะมีการค้นหาเชิงรุกมาก สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครจะพบผู้ป่วยสูงสุดวันที่ 7 ม.ค. พบถึง 49 ราย จากนั้นก็เริ่มลดลง โดยวันนี้(19 ม.ค.) 9 ราย ถือเป็นสัญญาณดี แต่การค้นหาในชุมชน ทางกทม.กำลังมองพื้นที่ที่มีความเสี่ยงและจะเร่งดำเนินการ ทั้งนี้ ไทม์ไลน์ผู้ป่วยเมื่อวาน(18 ม.ค.) ไม่ใช่ชุมชนวัดสิงห์ แต่เป็นย่านวัดสิงห์ เพราะตัวชุมชนไม่ได้เจอผู้ป่วย

“โดยพื้นที่ที่พบผู้ป่วยมากในกรุงเทพมหานคร มี 5 พื้นที่ คือ เขตบางขุนเทียน 106 ราย เขตบางแค 27 ราย เขตบางพลัด 27 ราย เขตจอมทอง 25 ราย และเขตธนบุรี 21 ราย ส่วนพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างก็ไม่ได้นิ่งเฉย มีการควบคุมและเฝ้าระวังเข้มข้น โดย 3 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่ 16 -18 ม.ค.64 พบจ.พัทลุงติดเชื้อ 3 ราย ส่วนตรังพบ 5 ราย” นพ.เฉวตสรร กล่าว 

นพ.เฉวตสรร นามวาท