ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองนายกฯ-รมว.สธ. พร้อมรมช.สธ. นำคณะผู้บริหารสาธารณสุขรับวัคซีนโควิดจากซิโนแวค เข็มที่ 2 ย้ำใครฉีดครบจะได้รับใบรับรองการฉีดวัคซีน เผยกรณีฉีดวัคซีน กทม.มีความล่าช้า ล่าสุดหารือผู้ว่าฯ กทม. ฉีดเพิ่มขึ้น ขณะที่วัคซีนซิโนแวคเข้าล็อตสองกระจายตามพื้นที่เป้าหมาย

เมื่อเวลา 15:00 น. วันที่ 23 มี.ค. ที่สถาบันบําราศนราดูร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด19 “ซิโนแวค” เข็มที่ 2 โดยได้สังเกตอาการเป็นเวลา 30 นาที ซึ่งพบว่าทั้งหมดมีอาการปกติ ไม่มีผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนแต่อย่างใด

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า คนที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วจะได้รับใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ซึ่งก็คล้ายๆ กับวัคซีนพาสปอร์ตที่สามารถเก็บไว้กับตัวได้ จะไปไหนก็ติดตัวไปด้วย ทั้งนี้วัคซีนมีความสำคัญเมื่อมีการรับวัคซีนมากพอจะมีการนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการที่มากขึ้น รวมถึงการเจรจากับประเทศต่างๆ เพื่อจับคู่กันเดินทางในลักษณะบับเบิ้ล ขณะนี้มีการเจรจาแล้วในหลายประเทศ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดเนื่องจากยังไม่ได้มีการทำสัญญาข้อตกลงกันอย่างเป็นทางการ

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายนั้นขณะนี้กำลังทยอยดำเนินการ แต่ในส่วนของกทม.ที่มีความล่าช้านั้นตนได้พบกับท่านผู้ว่าฯ กทม.แล้ว ได้มีการพูดคุยกันแล้ว มีกรมการแพทย์ กรมควบคุมโรคได้เข้าไปดูแลค่อนข้างเยอะ ตอนนี้การฉีดเพิ่มขึ้นแล้ว และสัมพันธ์กับ จำนวนวัคซีนที่เข้ามาเพิ่มขึ้นด้วย คือวัคซีนของซิโนแวค ล็อต 2 จำนวน 8 แสนโดสซึ่งจากนี้จะมีการกระจายไปยังพื้นที่เป้าหมายต่อไป

"ผมคงไม่อาจจะบอกได้ว่ารับวัคซีนแล้วจะไม่ติดเชื้อ แต่ผมบอกได้ว่า รับวัคซีนแล้วหากติดเชื้อก็จะลดความรุนแรงของโรคลงได้มาก" นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวอีกว่า สำหรับกรณี เจอผู้ติดเชื้อในสถานที่กับตัวผู้ลักลอบเดินทาง เข้ามาในประเทศผิดกฎหมาย ที่บางเขนนั้น ขอย้ำไม่ใช่คลัสเตอร์ใหม่ แต่เป็นการตรวจเจอในสถานที่กักตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจจับได้ทัน ประกบได้ทัน คนที่เข้ามาก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเราไม่ใช่อยู่ตามมีตามเกิด ส่วนผู้ติดเชื้อก็มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นมาดูแล ข้อมูลพื้นฐานทราบว่าผู้ติดเชื้ออยู่ในวัยทำงาน สุขภาพแข็งแรง ติดเชื้อไม่มีอาการ ซึ่งบางคนอาจไม่ต้องให้ยาด้วยซ้ำ เมื่อครบ 10 วันก็จะมีภูมิคุ้มกันขึ้น และไม่แพร่สู่ผู้อื่น ทั้งนี้จะมีการผลักดันกลับประเทศ

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการกระจายวัคซีนซิโนแวคล็อตที่เข้ามาใหม่ 8 แสนโดส นั้นจะมีการจัดสรรให้ 3 กลุ่ม 1. พื้นที่มีการระบาด จำนวน 3 แสนโดส เช่น สมุทรสาคร กรุงเทพ สมุทรปราการ แม่สอดจ.ตาก 2.จัดให้จังหวัดที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวจำนวน 3 แสนโดส อาทิ พัทยา ชลบุรี ภูเก็ต สมุย และ 3. บุคลากรสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ที่ทำงานกับผู้ติดเชื้อ เช่นตรวจคนเข้า เมือง อสม.และผู้มีความจำเป็นอื่นๆ เช่นนักกีฬาที่ต้องไปแข่งขันในนามตัวแทนประเทศในระดับนานาชาติ จำนวน 2 แสนโดส ในกลุ่มนี้ไม่ได้ระบุ ว่าเป็นจังหวัดใดบ้าง

ทั้งนี้ ในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 จะรวมทั้งหมด 22 จังหวัดส่วนกลุ่มที่ 3 ไม่ได้ระบุจังหวัด เนื่องจากว่าจะมีเจ้าหน้าที่หรือบุคคลอื่น ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ทั่วประเทศอยู่แล้ว ในส่วนนี้ไม่ได้จัดสรรจำนวนวัคซีนลงในพื้นที่ แต่ได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดส่งจำนวนบุคลากรที่จะรับวัคซีนว่ามีจำนวนเท่าไหร่แล้วทางเราจะจัดสรรให้ตามจำนวนที่แจ้งมา ขณะนี้วัคซีนอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณภาพ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์คาดว่าจะทราบผลในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ขณะที่การตรวจเอกสารต่างๆของอย.ก็คาดว่าจะเสร็จตามมาเร็วๆ นี้เช่นเดียวกัน คาดว่าน่าจะสามารถจัดส่งวัคซีนไปตามพื้นที่เป้าหมายได้ในวันที่ 28 มี.ค.

เมื่อถามถึงกรณีมีรายงานข่าวการฉีดวัคซีน ของซิโนแวคที่ฮ่องกง แล้วมีผู้เสียชีวิต นพ.โอภาส กล่าวว่า ข่าววัคซีนของทุกยี่ห้อเมื่อมีรายงานข่าวผลข้างเคียงที่รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตเมื่อมีการสอบสวนสาเหตุไปแล้วส่วนใหญ่จะไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน จึงขอประชาชนอย่ากังวล ปัจจุบันทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนป้องกัน covid-19 ไปแล้ว 100 กว่าล้านโดส ขอคนพบว่าเสียชีวิตไม่ถึง 100 คนและส่วนใหญ่เมื่อสอบสวน สาเหตุก็สรุปว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนแต่อย่างใด

สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนของประเทศไทยขณะนี้ดำเนินการฉีดไปแล้วกว่า 80,000 โดส มีผู้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 300 กว่าคนยังไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรงจนต้องเข้าคณะกรรมการสอบสวนแต่อย่างใด

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรณีการตรวจ พบผู้ติดเชื้อในสถานที่กับตัวคนหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองมีเจ้าหน้าที่เพียงหนึ่งคนที่มีการติดเชื้อซึ่งจากการสอบสวนโรค ก็พบว่ามีเพียงเพื่อน 2 คนเท่านั้น ที่มีความเสี่ยง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังสังเกตอาการ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง