ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อธิบดีกรมควบคุมโรคเผยขั้นตอนกระจายวัคซีนโควิด19 จากกระทรวงสาธารณสุขส่งยังจังหวัดต่างๆ ตามเกณฑ์ 5 กลุ่มเป้าหมาย ส่วน รพ.เอกชนเป็นไปตามระบบ อย่างกทม.ให้รพ.เอกชน และภาครัฐร่วมบริการประชาชนตามกลุ่มเสี่ยง ไม่มีนอกกลุ่ม ย้ำไม่คิดค่าใช้จ่าย หากใครโดนคิดเงินให้รีบแจ้งจนท.ตำรวจ

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวถึงการแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโควิด19 ให้แก่โรงพยาบาลเอกชน แต่กลับมีการฉีดให้คนนอกกลุ่มเป้าหมาย ว่า ก่อนอื่นต้องเรียนว่า การกระจายวัคซีนจะมี 2 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนแรกจากกระทรวงสาธารณสุขกระจายวัคซีนให้จังหวัดต่างๆ โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมาย กลุ่ม คือ 1.บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชน รวม อสม. 2.เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เช่น ทหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 3.ประชาชนที่มีโรคประจำตัว 4.ประชาชนสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และ5.ประชาชนในพื้นที่ระบาด เช่น สมุทรสาคร บางแค ทองหล่อ เป็นต้น

“หลังจากกระทรวงสาธารณสุขสอบถามจำนวนตัวเลขเป้าหมาย เช่น กรุงเทพฯ สมมติมี 1 แสนคนก็จะส่งไปให้ จากนั้นคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ จะพิจารณาและกำหนดว่า วัคซีนจะกระจายไปยังโรงพยาบาลที่ไหน อย่างไร ซึ่งเท่าที่สอบถามส่วนใหญ่กระจายไปยัง รพ.เอกชน รวมถึง รพ.รัฐ มหาวิทยาลัย รพ.ของกรมการแพทย์ ฯลฯ รวม 131 แห่งได้รับวัคซีนมากน้อยแตกต่างกันไป เพราะแต่ละรพ.มีขนาดไม่เหมือนกัน อย่างรพ.เอกชน ก็จะไปฉีดให้กลุ่มเป้าหมาย แน่นอนคือ เจ้าหน้าที่ในรพ.ตนเองก่อน และฉีดให้กับประชาชนที่มีโรคประจำตัว ซึ่งมีข้อมูลอยู่แล้ว โดยจะอยู่ในกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น กรณีมีข้อสงสัยว่าฉีดไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย เบื้องต้นสมาคมรพ.เอกชนปฏิเสธเรื่องนี้ รวมถึงการฉีดวัคซีนจะไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ หากท่านไปรพ.ใดแล้วมีการคิดค่าฉีดวัคซีน ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที” นพ.โอภาส กล่าว