ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประชุมศบค.นัดพิเศษสรุปตั้ง “ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิด19 กรุงเทพฯและปริมณฑล” นายกฯ นั่งผอ.ศูนย์ฯ ขณะที่ระดับเขตตั้งผอ.เขตเป็นผู้อำนวยการ “ศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด19 ระดับเขต” ร่วมแก้ปัญหาโควิดระบาดหนักพื้นที่ กทม.ปริมณฑล พร้อมขอความร่วมมือบุคลากรทางการแพทย์จัดสรรเวลาได้ แสดงเจตจำนงแพทย์จิตอาสา

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 พ.ค. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีการประชุมศบค. นัดพิเศษเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศบค. ได้นัดประชุมนัดพิเศษเพื่อให้หน่วยงานต่างๆที่เชื่อมโยงกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้เข้ามาหารืออย่างเร่งด่วน โดยมี 2 ประเด็นใหญ่ คือ

1. มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ 1 ชุด เพื่อบูรณาการงานโควิด19 ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งถือเป็นงานใหญ่เพราะติดเชื้อเกินกว่าครึ้ง และยกระดับมาตรการ โดยได้ตั้งชื่อว่า “ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิด19 กรุงเทพฯและปริมณฑล” โดยท่านนายกฯ จะเป็นผู้อำนวยการศูนย์นี้ ซึ่งรายละเอียดจะมีการนำเสนอต่อท่านนายกฯ

2.มีการหารือถึงโครงสร้างของศูนย์ที่อยู่ในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่ 50 เขต จึงต้องมี “ศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด19 ระดับเขต” ซึ่งมีผอ.เขตเป็นผู้อำนวยการศูนย์ จะเหมือนกับจังหวัดต่างๆ ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด และมีนายอำเภอ เป็นต้น โดยจะมีการแบ่งปฏิบัติการเป็นฝ่ายต่างๆ เช่น อำนวยการ ฝ่ายตรวจปฏิบัติการเชิงรุก ฝ่ายบริหารจัดการผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง ฝ่ายจัดการพื้นที่ ฝ่ายบริหารจัดการการฉีดวัคซีน เป็นต้น นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพราะประชากรในกรุงเทพฯ รวมประชากรแฝงอีก 10 ล้านคน จึงต้องมีการวางแผนทั้งหมด

 

"ดังนั้น กรุงเทพมหานครและกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ขอความร่วมมือบุคลากรทางการแพทย์ที่พอจะจัดสรรเวลาของตนเองได้ แสดงเจตจำนงเข้าเป็นบุคลากรทางการแพทย์จิตอาสา ผ่านไลน์ @thaimedvolunteer เพื่อเตรียมพร้อมเข้าดูแลผู้ป่วยในกลุ่มต่างๆในอนาคต"นพ.ทวีศิลป์กล่าว