ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คณะที่ปรึกษาเสนอ 3 ข้อแก้ปัญหาโควิดระบาดกรุงเทพฯปริมณฑล เร่งตรวจเชิงรุก 26,850 คนให้แล้วเสร็จ 2 วัน เตรียมเตียงรองรับไม่ต่ำกว่า 5% รองรับผู้ติดเชื้อ 1 พันกว่าราย พร้อมเร่งฉีดวัคซีนโควิดกทม. ด้านรองผู้ว่าฯ เสนอขอฉีดบุคคลสาธารณะ ทั้งผู้ขับขี่รถโดยสาร พนักงานเก็บขยะ ท่าอากาศยาน ฯลฯ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 พ.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) แถลงผลการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 ว่า ในการประชุมของคณะที่ปรึกษา ซึ่งมีอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในมหาวิทยาลัย สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ สำนักอนามัย กทม. สำนักการแพทย์ กทม. และสมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย โดยมีอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ศ.คลินิกนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ได้มีการประชุมและมีความคิดเห็นสรุป ดังนี้

1.ให้ทุกหน่วยงานในกรุงเทพมหานคร ทั้งภาครัฐและเอกชน บูรณาการระบบสารสนเทศเดียวกัน เพื่อแบ่งปันข้อมูลโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง

2.เร่งรัดการดำเนินการ active surveillance หรือการคัดกรองเชิงรุกโดยขยายและใช้ศักยภาพของทุกหน่วยงาน ในกรุงเทพมหานครทั้งภาคสาธารณสุขและมหาวิทยาลัย

3.ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์เตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด19 โดยสำนักการแพทย์ กรมการแพทย์ได้ขยายเตียงสำหรับผู้ป่วยให้เพียงพอ โดยเฉพาะผู้ป่วยวิกฤตสีแดง และสีเหลือง

“ในส่วนการเร่งรัดการคัดกรองเชิงรุก ทางคณะที่ปรึกษาขอให้ทางกทม.และปริมณฑลเร่งระดมการตรวจ จากเดิมแผนตรวจ 26,850 คนให้แล้วเสร็จใน 1 สัปดาห์ ทางคณะที่ปรึกษาขอให้เพิ่มสรรพกำลังให้ตรวจจำนวนนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน นอกจากนี้ ยังพูดถึงการเตรียมเตียง ในส่วนของการติดเชื้อ 1 พันกว่าราย ต้องเตรียมเตียงไม่ต่ำกว่า 5% รวมแล้วในแต่ละสัปดาห์จะมีการวางแผนเตียงล่วงหน้า คิดจาก 5% ของยอดผู้ติดเชื้อ ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 3-4% จะมีอาการหนักและจำเป็นต้องได้รับจัดสรรเตียงในส่วนสีเหลืองและสีแดง” พญ.อภิสมัย กล่าว

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวถึงการจัดสรรวัคซีนโควิดว่า ขณะนี้วัคซีนมีการเข้ามาในไทยมากขึ้น โดยวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา วัคซีนมาถึง 1 ล้านโดส วันที่ 14 พ.ค. จะมาถึงอีก 5 แสนโดส และวันที่ 22 พ.ค.จะมาอีก 1 ล้านโดส ดังนั้น จะมาอีก 2.5 ล้านโดส ดังนั้น สัปดาห์หน้าจะมีการระดมฉีดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยครึ่งหนึ่งจะอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

“วันนี้ท่านรองผู้ว่าฯ กทม.เสนอที่ประชุมว่า ในส่วนกทม.จะขอให้มีการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ บุคลากรที่เป็นครู พนักงานเก็บขยะ กทม. การท่าอากาศยานดอนเมือง รวมทั้งลูกเรือ กัปตัน ฟรอนไลน์ พนักงานส่วนออฟฟิสทั้งหลาย รวมทั้งในส่วนของการท่าเรือ พนักงานการไฟฟ้า การประปา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายกรมควบคุมโรคที่มีเป้าหมายฉีดวัคซีนโดยเร็วให้แก่บุคคลที่ทำงานสาธารณะ” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมจึงมีการพูดคุยถึงการเตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีน จากก่อนหน้านี้กระจายวัคซีน 77 จังหวัดรวมทั้งกทม. แต่ละเขต และเมื่อวัคซีนมาถึงเราก็มีการเตรียมความพร้อมสถานที่เสี่ยง ซึ่งก่อนหน้านี้การฉีดเราเน้นย้ำรพ. ต้องมีแพทย์ มีห้องฉุกเฉิน แต่ตอนนี้เราฉีดไปเป็นล้านคน จึงมั่นใจความปลอดภัย จึงอาจมีการพิจารณาโดยกทม. มีพื้นที่ 115 แห่ง เอกชน 14 แห่ง กระจายไปมหาวิทยาลัยติดตามรายละเอียดการฉีดวัคซีนของกทม.และปริมณฑล ที่จะระดมฉีดในระยะใกล้นี้ ส่วนสถานที่ฉีดที่ไม่ใช่รพ. ก็จะมีการจัดรพ.พี่เลี้ยง เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน