โควิดคลัสเตอร์กทม.เฝ้าระวังรวม 63 แห่ง พบใหม่อีก 4 เขต

ศบค.เผยคลัสเตอร์เฝ้าระวังพื้นที่กทม. 63 แห่ง พบใหม่อีก 4 เขต “ดุสิต ราชเทวี ลาดพร้าว วัฒนา” ขณะที่ผลตรวจตลาดถูกสุขอนามัย 102 แห่ง ส่วนแคมป์คนงานตรวจ 367 แห่ง จาก 409 แห่ง ผ่านมาตรฐาน 270 แห่ง ไม่ผ่าน 97 แห่ง พบมาตรการผู้ประกอบการ-คนงานมีปรับปรุงเรื่องสถานที่ทานอาหาร ห้องน้ำ รวมทั้งคนงานยังมีการสังสรรค์ เสี่ยงติดเชื้อ!

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 6 มิ.ย.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) กล่าวถึงการเฝ้าระวังตามเขตต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร ว่า การรายงานสถานการณ์โควิด19 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีรายงานเพิ่มเติมเป็นกลุ่มเขตที่แบ่งเป็นกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด กลุ่มเฝ้าระวัง และที่พบใหม่ จริงๆมีการพูดคุยว่าจะใช้พื้นที่เขตในการบริหารจัดการ หรือใช้กลุ่มคลัสเตอร์ที่เจอกันบ่อยๆ ซึ่งขณะนี้มีการผสมผสาน ขณะเดียวกันก็ยังบริหารจัดการผ่านเขต โดยเขตที่มีกลุ่มคลัสเตอร์นี้ก็นำมาจับคู่กัน ซึ่งเจตนาไม่ได้อยากให้มีการตื่นตระหนก อย่างห้างสรรพสินค้าที่เจอผู้ติดเชื้อก็เพื่อให้เฝ้าระวัง

โดยขณะนี้มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังจำนวน 63 แห่ง แบ่งเป็นกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด ซึ่งมีบางกะปิ คลองเตย ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย บางรัก ดินแดง ห้วยขวาง สัมพันธวงศ์ บางกอกน้อย ราชเทวี พระนคร ปทุมวัน ทุ่งครุ บางแค ลาดพร้าว จตุจักร คลองสาน สวนหลวง ยานนาวา มีนบุรี วัฒนา คลองสามวา บางนา สาทร บางซื่อ ราษฎร์บูรณา ลาดกระบัง หนองจอก ส่วนกลุ่มเฝ้าระวัง มีบางแค บางเขต บางซื่อ หลักสี่ สาทร ดอนเมือง บางคอแหลม และหนองจอก ส่วนที่พบใหม่ มีดุสิต ราชเทวี ลาดพร้าว และวัฒนา ทั้งหมดมาจากการสอบสวนโรคลงไปยังพื้นที่ ซึ่งมีหลายทีมมาทำงานกันตลอดเวลา

“นอกจากนี้ ยังมีการตรวจตลาด ซึ่งผ่านการประเมินเรื่องสุขาภิบาล สุขอนามัยถึง 102 แห่ง ซึ่งสามารถเข้าไปติดตามในเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานคร จะมีการเปิดเผยชื่อตลาดที่ควรเดินไปจับจ่ายใช้สอย ส่วนเรื่องแคมป์คนงานก่อสร้างมี 409 แห่ง ก็เป็นเป้าหมายของ ศปก.ศบค. ที่แจ้งไปกทม.ว่า เช่นเดียวกันกับตลาด เพราะเป็นแหล่งที่ต้องทำงานตลอดเวลา จึงได้เข้าไปตรวจ ล่าสุดวันนี้ตรวจไปแล้ว 367 แห่ง จาก 409 แห่ง ผ่าน 270 แห่ง ไม่ผ่าน 97 แห่ง ซึ่งเข้าไปดูทั้งมาตรการประเมินผู้ประกอบการ ตรวจมาตรการคนงาน บุคคลในครอบครัวของเขา” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

สำหรับการตรวจมาตรการนายจ้าง ยังต้องเข้าเรื่องแผนการพบผู้ป่วยต้องทำอย่างไร และเรื่องการสื่อสาร อาจต้องใช้ภาษาของเขา รวมไปถึงที่นั่งรับประทานอาหารในแคมป์ บางทีไม่มี และไปจับกุมกินข้าวกันทำให้เสี่ยงติดเชื้อ ส่วนมาตรการคนงานและบุคคลในครอบครัว บางทีอาบน้ำรวมกัน มีการสังสรรค์ เป็นต้น ซึ่งตรงนี้จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขต่อไป

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org