ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผู้ค้าร้านอาหาร หาบเร่ แผงลอย เข้าพบ “อนุทิน” ขอฉีดวัคซีนโควิด เหตุเป็นกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ และยังค้าขายแม้จะไม่สามารถให้นั่งในร้าน เป็นเทคโฮม ด้าน รมว.สธ. รับฟังความเดือดร้อน มอบ คร.จัดหาวัคซีนประสานกับ กทม. และประกันสังคม เพราะกลุ่มนี้คาดว่ามี 2 แสนคน เป็นกลุ่มแฝงที่ต้องรับวัคซีน แต่ยังไม่ได้ แต่จัดเป็นกลุ่มเสี่ยง คล้ายผู้ขับรถรับจ้าง

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 29 มิ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร หาบเร่ แผงลอย พ่อค้า แม่ค้าอิสระ ซึ่งมีการประสานงานผ่านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ และนายภราดร ปริศนานันทกุล เข้ามาหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้มีการพิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารที่เป็นร้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั่วไป และหาบเร่แผงลอยเพราะเป็นผู้ที่สัมผัสกับประชาชนจำนวนมาก ทุก ๆ วัน เพราะถึงแม้วันนี้จะห้ามนั่งรับประทานอาหารที่ร้าน แต่สามารถสั่งซื้อกลับบ้านได้ ทำให้มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้คนจำนวนมาก และผู้ค้าขายเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม และเป็นกลุ่มที่อยู่นอกกลุ่มที่จะสามารถลงทะเบียนรับวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อมหรือไทยร่วมใจได้

"ผมก็รับฟังความเดือดร้อนแล้วก็จึงได้มีนโยบายให้ท่านเหล่านี้ไปรวบรวมกลุ่มก้อนมาในลักษณะภาคีเครือข่าย เพื่อกรมควบคุมโรคจะได้พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้ในลักษณะกลุ่มก้อน ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านี้ก็ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นเดียวกัน เหมือนกับที่เราได้ฉีดให้กับกลุ่มผู้ขับรถรับจ้าง คาดว่ากลุ่มนี้จะมีอยู่ประมาณ 200,000 คน" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เมื่อได้มีการพิจารณาข้อสรุปเรียบร้อยแล้วคาดว่าน่าจะสามารถฉีดได้ที่สถานีกลางบางซื่อ ทั้งนี้กรมควบคุมโรคต้องไปหารือร่วมกับประกันสังคมและกทม.ว่ากลุ่มเหล่านี้ได้ถูกตัดยอดมาที่การฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อแล้ว เพื่อให้ตัดยอดออกจากตรงนั้นจะได้ไม่กระทบกับคนอื่นๆ ต่อไป ย้ำว่าการฉีดวัคซีนให้กลุ้มนี้จะไม่กระทบกับยอดการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคที่เราจะต้องเร่งดำเนินการฉีดให้ครบภายใน 1- 2 เดือนนี้ก่อนตามนโยบายของศบค. และข้อสั่งการของท่านนายกรัฐมนตรีขณะเดียวกันถ้าเรามีกำลังเหลือที่จะให้บริการกลุ่มต่างๆได้ก็จะรีบดำเนินการทันทีเช่นเดียวกัน

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สำหรับวัคซีนเดือนมิ.ย.นี้ ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย และในเดือน ก.ค.มีก็จะทำการฉีดให้กับประชาชนได้ตามโปรแกรมที่ตั้งเอาไว้

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับการหารือกับเจ้าของพื้นที่เมืองทองธานีเพื่อขอต่อสัญญาเช่าพื้นที่เมืองทองธานีเพื่อทำเป็นรพ.สนามนั้น เป็นไปด้วยดี ซึ่งเจ้าของพื้นที่ให้ความกรุณาในการใช้พื้นที่ไปจนถึงประมาณเดือนตุลาคมนี้ โดยใช้พื้นที่ฮอลกลาง เปิดได้มากถึง 2 พันเตียง รวมๆ แล้วพื้นที่เมืองทองสามารถเปิดเตียงรองรับได้มากถึง 4,000 - 5,000 เตียง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่มอบอุปกรณ์ที่จำเป็นจะต้องใช้ในโรงพยาบาลสนามนั้นก็พร้อมที่จะบริจาคให้ถือเป็นความร่วมมือของผู้ประกอบการที่ให้การดูแลเพื่อนร่วมชาติ