ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมอนามัยย้ำ! ซื้ออาหารกลับมารับประทาน ไม่จำเป็นต้องฉีดพ่นแอลกอฮอล์ลงในอาหาร แต่นำมาอุ่นให้ร้อน ให้สุกก่อนรับประทาน พร้อมแนะจุดที่ต้องระวังเมื่อไปตลาด

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2564 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีหลายคนวิตกการซื้ออาหารกลับมารับประทาน สามารถพ่นแอลกอฮอล์ลงในอาหารหรือไม่ ว่า เมื่อซื้อของกลับมาบ้าน สิ่งแรกคือเราต้องทำความสะอาดตัวเอง ล้างมือ สวมหน้ากาก และทำความสะอาดของตามลักษณะและทิ้งบรรจุภัณฑ์ หลังจากนั้นให้จัดเก็บในภาชนะที่บ้านตัวเอง อุ่นอาหารให้สุก หรือให้ร้อน ก่อนรับประทานอาหาร

“เราเข้าใจว่าอาหารที่เราซื้อมาจะสามารถฉีดแอลกอฮอล์ลงไป แต่ต้องเรียนว่าแอลกอฮอล์ที่เอามาฉีด เป็นชนิดเอทิลแอลกอฮอล์ (ethyl alcohol) ที่มีแอลกอฮอล์มากกว่า 70% เพื่อฆ่าเชื้อโรค โดยปกติไม่แนะนำให้ฉีดพ่นอาหาร เพราะอาจไม่ทั่วถึงอาหาร และอาจไม่มีผลการฆ่าเชื้อได้ ที่สำคัญในบางครั้งมีการใส่สารอื่นในแอลกอฮอล์ เช่น สี กลิ่น ฉะนั้นจึงไม่แนะนำให้ฉีด แม้ว่าผู้ผลิตบางรายบอกว่าเป็น ฟู้ดเกรด ที่มีคุณภาพในระดับหนึ่ง แต่ไม่มีคำแนะนำให้ฉีดฆ่าเชื้อในอาหาร แต่เราสามารถล้างทำความสะอาด หรือการปรุงสุกมากกว่า 70 องศาเซลเซียสนานกว่า 5 นาที เชื้อโควิดก็จะตายหมด” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

เมื่อถามว่าความเสี่ยงที่ประชาชนต้องระวังขณะเข้าตลาดไปซื้ออาหาร นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จุดที่เป็นพื้นผิวสัมผัสร่วม จุดแรก คือ ห้องน้ำ ที่ต้องจับประตู ก๊อกน้ำ ที่กดชักโครก เราจึงต้องสวมหน้ากากอนามัย จะให้ดีก็ควรใส่ 2 ชั้น คือ ด้านในเป็นแบบทางการแพทย์และด้านนอกเป็นหน้ากากผ้า รวมถึงการล้างมือให้สะอาด และขอว่าอย่าถอดหน้ากาก อย่านำมือที่ยังไม่ได้ล้างด้วยแอลกอฮอล์มาสัมผัสใบหน้า อีกจุดหนึ่งคือ ภาชนะสัมผัสร่วมกันที่ต้องผ่านมือหลายคน จึงเน้นย้ำว่า หากจะไปตลาดให้วางแผน และมุ่งไปซื้อตามแผน

“เราคงไม่สามารถปฏิบัติตามเดิม คือไปเดินตลาด ดู หยิบ จับเลือกซื้อ ต่อรองราคา อันนั้นเป็นวิถีปกติ แต่ตอนนี้มีความเสี่ยง เราก็ต้องวางแผน เช่นเดียวกับผู้ค้าต้องจัดแลปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค ลดโอกาสที่ทำให้ผู้คนมาสัมผัสกันหลายจุด” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org

เรื่องที่เกี่ยวข้อง