ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคชี้ไทยสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มอีกแค่ 2 เดือน ใช้เป็นวัคซีนสูตรไขว้ หลังจากหมดล็อตนี้ อีก 3-4 เดือนข้างหน้า “แอสตร้าฯ-ไฟเซอร์” มีปริมาณมากที่สุด เตรียมปรับสลับชนิด เป็นแอสตร้าฯเข็ม 1 และไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 พร้อมเผยอนาคตวัคซีนจะมี 3 แบบ คือ แอสตร้าฯ 2 เข็ม ไฟเซอร์ 2 เข็ม และฉีดไขว้ “แอสตร้า+ไฟเซอร์”

3 ก.ย. 2564 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวถึงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิดเดือน ก.ย.- ธ.ค.2564 ว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 70% ของประชากร แต่การระบาดของเดลตามีการติดเชื้อได้มาก 1 รายอาจแพร่ 7-8 ราย ภูมิคุ้มกันหมู่ 70% อาจไม่พอ ถ้าเรามีคนยังไม่ได้รับวัคซีน หรือยังไม่เคยติดเชื้อเหลือเท่าไร พยายามฉีดให้หมด น่าจะขยับได้มากกว่า 70% สธ.ต้องเตรียมวัคซีนให้พอ

“จากนี้จะมีวัคซีนหลัก 3 ตัว คือ ซิโนแวค ก.ย.-ต.ค.เดือนละ 6 ล้านโดส แอสตร้าฯ ส่งมอบมากขึ้น ก.ย. 7.3 ล้านโดส และบริษัทบอกว่าอาจถึง 8 ล้านโดสได้ ต.ค.-ธ.ค. คือ 10 , 13, 13 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ครบถ้วน 61 ล้านโดส ส่วนไฟเซอร์ ต.ค.ถึง ธ.ค.เดือนละ 8-10 ล้านโดส ทำให้แอสตร้าฯ และไฟเซอร์มีจำนวนมากสุดในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้” นพ.โสภณ กล่าว

เมื่อถามว่ามีการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มอีกแค่ 2 เดือน เดือนละ 6 ล้านโดส แปลว่าการฉีดวัคซีนสูตรไขว้จากนี้หากหมดล็อตการฉีดไขว้แล้ว จากนี้จะมีเพียงแอสตร้าฯ เป็นเข็มแรกและตามด้วยไฟเซอร์ใช่หรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า ใช่ แต่การฉีดหลังจากนั้นจะมีอยู่ประมาณ 3 แบบคือ 1. แอสตร้าฯ 2 เข็ม 2. ไฟเซอร์ 2 เข็ม และ 3. ฉีดไขว้ด้วย แอสตร้าฯ เข็ม 1 ตามด้วย ไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 ทั้งนี้ ยังไม่มีแผนที่จะซื้อเพิ่ม เว้นแต่ว่าจะมีข้อมูลการพัฒนาว่าสามารถฉีดในเด็กได้ เพราะการฉีดในเด็กต้องเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย คือ วัคซีนเชื้อตาย วัคซีน mRNA ก็ฉีดได้เพียงแต่ผลในระยะยาวเรายังไม่ทราบผล นอกจากนี้การชะลอซื้อซิโนแวคเพราะต้องรอดูวัคซีนรุ่นใหม่ของเขาที่เจาะจงกับสายพันธุ์ปีนี้ ซึ่งวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันเป็นวัคซีนที่พัฒนามาจากเชื้ออู่ฮั่น

เมื่อถามถึงกรณีมีการแชร์ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียว่าการฉีดวัคซีนเข็ม 3 เสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ว่า เป็นเรื่องอิมมูนซิสเต็ม (Immune System) ถ้ามีการกระตุ้นมากไปก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดความผิดปกติในการแบ่งเซลล์ผิดปกติได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล เพียงแต่ว่าก็ค่อนข้างระวังว่าหากมีการฉีดกระตุ้นมากเกินไปจะทำให้เกิดความผิดปกติในการแบ่งตัวของเซลล์ ทั้งนี้เพราะระบบภูมิคุ้มกันจะมีต่อมน้ำเหลืองอาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ในอนาคต เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป ที่สำคัญหากบางคนฉีดเยอะไป คนอื่นก็ไม่ได้ฉีด

(ข่าวเกี่ยวข้อง : ศปก.สธ. เห็นชอบสูตรหลักวัคซีนไขว้ - แจงรายละเอียดคนติดเชื้อแล้ว 1-3 เดือนต้องฉีดวัคซีนอย่างไร)

 

 **สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org