ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.ขอทุกจังหวัดคุมเข้มกลุ่มแรงงานต่างด้าว เข้าไทย หวั่นโควิดระบาดอีก!!  เหตุอดีตพบคลัสเตอร์ตลาด พร้อมย้ำนายจ้างเข้มงวดลูกจ้าง เพราะเชื่อที่สุดแล้ว

 

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)  ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่อกรณียังพบแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เสี่ยงต่อการแแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด -19 ว่า กรณีแรงงานต่างด้าวก็เป็นที่น่ากังวล เพราะเป็นปัจจัยการระบาดในหลายครั้งที่ผ่านมา  ที่เห็นชัด ๆ คือในตลาด โดยเวลาเกิดการระบาดขึ้นในตลาดแต่ละแห่งหากลงไปสอบสวนโรคดู การระบาดจะเริ่มต้นที่แรงงานต่างด้าวก่อนไม่ว่าจะเป็น ตลาดในกรุงเทพฯ สมุทรสาคร แม้กระทั่งที่เชียงใหม่ แน่นอนว่าประเทศไทยยังมีความจำเป็นในการใช้แรงงานต่างด้าว แต่ขอให้เข้ามาถูกกฎหมาย และหากเข้ามาแล้วขอให้มีระบบการลงทะเบียนติดตามได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน อยู่ในชุมชนไหน ฉีดวัคซีนหรือยัง ซึ่งได้มอบหมายให้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ขอความร่วมมือพื้นที่เข้าไปดูแล้ว เราต้องควบคุมตรงนี้ให้ได้เพื่อป้องกันไม่ใหห้เกิดการระบาดขึ้นมาอีก 

 

เมื่อถามว่า ขณะนี้ทราบว่ากระทรวงแรงงาน มีข้อเสนอว่าจะแบ่งกลุ่มแรงงานต่างด้าวออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม กลุ่มที่ 2 ได้รับวัคซีน 1 เข็มและกลุ่มที่ 3 ยังไม่ได้รับวัคซีนเมื่อ นำเข้าแรงงานเหล่านี้จะต้องมีการกักตัวลดหลั่นกันอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า ก็เป็นไปตามมาตรฐาน ของการกักตัวว่าเข้ามาแบบไหน แต่โดยทั่วไป ถ้าเข้ามาทางบกยังมีความจำเป็นที่จะต้องกักตัวตามกำหนดไม่ว่าจะเป็น 7 วัน 10 วัน กรณีฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วหากตามเกณฑ์เดิมก็คือกักตัว 7 วัน ส่วนกรณีเข้ามาแล้วยังไม่ได้ฉีดวัคซีน นโยบายเราก็ชัดเจนว่าทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินไทยเราจะฉีดให้หมด 

 

อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าถึงแม้ฉีดวัคซีนแล้ว แต่พฤติกรรมก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้เพราะฉะนั้น จึงขอให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรค เพราะต้องยอมรับว่า เวลาอยู่ด้วยกันในตลาด ชุมชน ในโรงงาน ที่ผ่านมามักไม่ค่อยใส่หน้ากาก ตรงนี้ก็ต้องเน้นย้ำให้ทางจังหวัดเข้าไปตรวจสอบดูแล เบื้องต้นก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่จะเข้าไปดูแลตรงส่วนนี้ แต่ส่วนตัวคิดว่าผู้มีบทบาทสำคัญเลยคือนายจ้าง เพราะลูกจ้างใครไปบอกเขาก็ไม่เชื่อ แต่หากนายจ้างเข้มงวด เชื่อว่าแรงงานยินดีที่จะทำตามทุกคน ดังนั้นต้องขอความร่วมมือทุกคน เจ้าของสถานประกอบการ องค์กร ให้ช่วยเน้นย้ำตรงส่วนนี้ ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปพูดอย่างเดียว อาจจะไม่ได้ผลมากนักบางครั้งอาจจะพูดกันเกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน