ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ที่ประชุม ศบค. เห็นชอบเลื่อนเปิด “ร้านเหล้า ผับ บาร์ คาราโอเกะ” จาก ธ.ค.ออกไป ระหว่างนี้เตรียมมาตรการ หากมีความพร้อมอนุญาตเปิดดำเนินการได้ตั้งแต่ 16 ม.ค.65 โดยอาจเป็นเฉพาะพื้นที่ เช่น พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ขณะเดียวกันปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จาก 7 จังหวัดเหลือ 6 จังหวัด โดยจันทบุรีไปอยู่พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่แดงเข้มยังเคอร์ฟิวถึง 30 พ.ย.นี้

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 12 พ.ย.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานโควิด-19 (ศบค.) แถลงภายหลังการประชุม ศบค. ว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าวันนี้มีการติดเชื้อรายใหม่ 7,305 ราย ทำให้ยอดสะสมวันที่ 2,004,274 รายตั้งแต่ปี 2563 แต่อัตราการเสียชีวิตลดลง โดยวันนี้เสียชีวิต 51 ราย จะเห็นแนวโน้มการป่วยปอดอักเสบลดลง อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการควบคุมโรคและปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร โดยได้มีการกำหนดแผนที่สีใหม่ ซึ่งครั้งนี้ไม่ได้เปลี่ยนมาก มีเปลี่ยนที่จ.จันทบุรี ดังนี้ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จาก 7 จังหวัด เหลือ 6 จังหวัด ได้แก่ ตราด นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา โดยจ.จันทบุรี ไปอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด เป็น 39 จังหวัด นอกนั้นพื้นที่อื่นๆ คงเดิม อย่างพื้นที่ควบคุม 23 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด พื้นที่สีฟ้า 4 จังหวัด

สำหรับมาตรการต่างๆ ของทุกระดับพื้นที่สถานการณ์นั้น อย่างการห้ามออกนอกเคหสถาน ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังต้องยืดออกไปอีก 15 วันถึงวันที่ 30 พ.ย.2564 ทั้งนี้ ในส่วนสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้ประกอบการ คนที่ทำงานในส่วนนี้เรียกร้อง จึงมีการพิจารณาว่า อาจเปิดบริการได้ โดยสรุปที่ประชุม ศบค. ขอเลื่อนออกไปก่อน ยังไม่เปิดดำเนินการในเดือน ธ.ค.นี้ เพราะยังเกี่ยวข้องกับความเสี่ยง การระบายอากาศ ต้องมีมาตรการควบคุมอย่างสูง แต่จะให้เปิด เพียงขอใช้เวลาระหว่าง 15 พ.ย. 2564 -15 ม.ค. 2565 ขอให้เตรียมพร้อม หากมีความพร้อมแล้วจะเปิดให้ดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2565 โดยอาจเป็นเฉพาะพื้นที่ อย่างพื้นที่เฝ้าระวัง พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว เป็นต้น

ส่วนกีฬาชนไก่ ชนวัว แข่งม้า ตรงนี้มีประเด็นแอบแฝงมาและอาจเกิดคลัสเตอร์ต่างๆตามาได้ จึงมีการเสนอขออนุญาต โดยสรุป ผอ.ศบค. รับทราบเรื่องความเดือดร้อน และไม่อยากให้ห่วงโซ่กิจกรรม การทำงานด้านนี้ไม่มีงานทำ หรือรับภาระด้านนี้ จึงให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกระทรวงสาธารณสุข ไปพิจารณามาตรการควบคุมโรค เพื่อเปิดกิจกรรมเหล่านี้ได้ โดยหากก่อนปีใหม่มีผลสัมฤทธิ์อย่างไร ก็จะประกาศผ่อนคลายมาตรการต่อไป

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org

เรื่องที่เกี่ยวข้อง