ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้คำแนะนำ 3 ข้อสำหรับการพิจารณาเบื้องต้นสถานการณ์โควิด "โอมิครอน" แบบไหนถึงเรียกว่า ระบาดสีแดง หรือยังอยู่ในการควบคุม ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยอาการหนัก และตัวเลขเสียชีวิต เผยเป็นไปตามแบบจำลองคาดการณ์โควิดที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้

เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2565 ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์การติดเชื้อประจำวันที่ 5 ก.พ. ข้อมูลการติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 10,490 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 262,687 ราย  หายป่วยวันนี้ 8,479 ราย หายป่วยสะสมแล้ว 206,894 ราย เสียชีวิตวันนี้ 21 ราย เสียชีวิตสะสม 573 ราย ปรากฎว่าหลังจากมีการเผยแพร่ผู้ติดเชื้อรายวันประจำวันนี้ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามว่า สถานการณ์น่ากังวลขึ้นหรือไม่ ตัวเลขติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น

ล่าสุด นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงจำนวนการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ ว่า ข้อเท็จจริงต้องไปพิจารณาตามเส้นกราฟแบบจำลองการคาดการณ์การติดเชื้อโควิดในประเทศไทย ที่มีการเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น ผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงถึง 3 หมื่นราย แต่วันนี้(5 ก.พ.) รายงานผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 10,490 ราย  ซึ่งอยู่ในเส้นกราฟสีเขียว อย่างที่ทราบกันดีว่า โอมิครอน เป็นสายพันธุ์ที่ติดง่าย ตัวเลขจึงเป็นไปตามที่คาดการณ์ และอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ตามมาตรการต่างๆ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พอจะมีหลักเกณฑ์หรือข้อมูลเบื้องต้นให้ประชาชนสามารถวิเคราะห์หรือพิจารณาเบื้องต้นเองได้หรือไม่ว่า สถานการณ์โควิดแนวโน้มจะน่ากังวลเมื่อไหร่ นพ.โอภาส กล่าวว่า  ประการแรก คือ จำนวนผู้ติดเชื้อเป็นอย่างไร อย่างที่กล่าวมาว่า โอมิครอน เป็นสายพันธุ์ที่แพร่งายแพร่เร็ว จึงต้องพิจารณาปัจจัยเรื่องผู้ป่วยอาการหนัก และเสียชีวิตร่วมด้วยเป็นสำคัญ คือ แม้โอมิครอนติดง่าย แต่ที่สำคัญคือต้องเสียชีวิตน้อย  
ประการที่สอง การพิจารณาตัวเลขผู้ป่วยอาการหนัก อย่างปอดอักเสบ มีโอกาสเสียชีวิต ผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ กลุ่มนี้มีความเสี่ยงเชื้อลงปอด ทางเดินหายใจล้มเหลว  และประการที่สาม  จำนวนผู้เสียชีวิต ตอนนี้ที่ตั้งเป้าให้ทั้งผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิตมีอัตราจำนวนน้อยที่สุด โดยตัวเลขติดเชื้อขณะนี้ยังไม่ค่อยกังวลมากนัก ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบประมาณกว่า 500 ราย  และมีจำนวนผู้ใส่ท่อช่วยหายใจอีก ขณะที่เสียชีวิตประมาณ 20-30  ราย ซึ่งตัวเลขประมาณนี้เมื่อเทียบกับสัดส่วนผู้ติดเชื้อ ยังไม่ถึงเส้นกราฟสีแดง

(ข่าวเกี่ยวข้อง : สธ.เปิดแบบจำลอง " 3 ฉากทัศน์" โควิดระบาด! หากไม่มีมาตรการ ไร้ความร่วมมือป่วยพุ่ง! )

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญการป้องกันการติดเชื้อไม่ให้เพิ่มขึ้นยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้มีการฉีดวัคซีนมากขึ้น คนก็เริ่มผ่อนคลาย มีการจัดงานเลี้ยง งานแต่ง งานบวช หรืองานศพ ส่วนใหญ่การติดเชื้อจะพบในคลัสเตอร์เล็กๆ  ซึ่งจะใกล้ชิดกัน และไม่สวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งการรับประทานอาหารร่วมกันยังเป็นปัจจัยการติดเชื้อที่ต้องระวัง ดังนั้น เรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ระมัดระวังตัวเอง ส่วนผับบาร์คาราโอเกะ ยังเป็นสถานที่เสี่ยง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้อนุญาต เพียงแต่จะเปิดทางให้ขออนุญาตปรับเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร ซึ่งต้องขออนุญาตในพื้นที่มีคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัด ซึ่งมีการกำชับให้เข้มงวดกวดขัน  

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า  ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนจำนวนมาก แต่ยังพบว่ากลุ่ม 608 ผู้สูงอายุ มีส่วนหนึ่งยังไม่ได้รับบูสเตอร์โดส  ซึ่งผู้เสียชีวิตยังพบว่า เป็นกลุ่ม 608 คนสูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว  ดังนั้น  ขอให้ไปรับบูสเตอร์ตามกำหนด เพราะวัคซีนมีเพียงพอ และขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ยังอนุมัติให้สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแก่เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปได้ 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะทำอย่างไรเพราะมีบางกลุ่มยังกังวลเรื่องตัวเลขติดเชื้อเพิ่มขึ้น  นพ.โอภาส กล่าวว่า  ตัวเลขก็เป็นไปตามแบบจำลองสถานการณ์โควิด ซึ่งยังอยูในเส้นกราฟสีเขียว และเรามีมาตรการในการควบคุมโรคมาตลอด ร่วมกับความร่วมมือของประชาชน และทุกฝ่าย 
 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org