ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคเผยคาดการณ์ระบาดโควิด "โอมิครอน" หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ เข้มมาตรการป้องกันตัวเอง จะมีผู้ติดเชื้อราว 5 หมื่นรายต่อวัน แต่หากย่อหย่อน จะพีคกลาง เม.ย. ติดเชื้อมากขึ้น ย้ำดีที่สุดมาตรการบุคคล องค์กรอาจช่วยให้ผู้ติดเชื้อไม่เกินวันละ 2 หมื่น คาดระลอกนี้ติดเชื้อจะค่อยๆลดต่ำสุดปลายพ.ค. 65 

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์  ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยง กรมควบคุมโรค  กล่าวถึงการคาดการณ์สถานการณ์ระบาดโรคโควิด  ว่า   สำหรับคาดการณ์สถานการณ์การระบาด โดยการติดเชื้อรายวัน ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นหากยังคงมาตรการควบคุม ป้องกันโรคอย่างที่ดำเนินการกันอยู่นั้นสถานการณ์จะอยู่ในแนวเส้นสีเหลือง แต่หากย่อหย่อน ผ่อนคลายมาตรการลง จำนวนผู้ติดเชื้อจะไต่เป็นเส้นสีแดง ซึ่งคาดว่าขึ้นสูงสุดช่วงกลางเม.ย. แล้วค่อยๆ ลดลง หากอยู่ห่าง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย ไม่ไปที่มีคนแออัด ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการ Covid free setting จะมีผู้ติดเชื้อประมาณ 5 หมื่นรายต่อวัน  แต่หากย่อหย่อน ผ่อนคลาย ช่วงพีค กลางเม.ย.อาจจะมีผู้ติดเชื้อมากกว่านี้ จึงขอทุกภาคส่วนเคร่งครัดมาตรการบุคคล องค์กร ถ้าจะให้ดีคือเส้นสีเขียว ติดเชื้อวันละไม่เกิน 20,000 ราย  โดยการระบาดระลอกนี้จำนวนผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ลดลงต่ำสุดช่วงปลาย พ.ค. นี้ 

อย่างไรก็ตามการ ระบาดระลอกนี้เป็นเชื้อโอมิครอน ทำให้มีคนปอดอักเสบน้อยกว่าระลอกที่ผ่านมา ถ้าเทียบผู้ป่วยกับช่วงการระบาดของเดลต้าเฉลี่ย 5,000 รายต่อวัน แต่ช่วงนี้ปอดอักเสบเฉลี่ย 625 ราย ส่วนการคาดการณ์ เมื่อวานปอดอักเสบขึ้นไปแตะหลักพันรายเป็นวันแรก และวันนี้แตะหลักพันเป็นวันที่ 2 โดยมีการคาดการณ์ว่าหากยังคงมาตรการที่มีปัจจุบันจนถึงสงกรานต์ จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบจะมากสุดช่วงต้นพ.ค. ตอนนี้จึงต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคล ปฏิบัติตามการเตือนภัยระดับ 4 คืองดรวมกลุ่ม ทำงานที่บ้านให้มากที่สุด ชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่ หรือข้ามจังหวัด เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้เพิ่มขึ้นทุกเข็ม จะทำให้ผู้ป่วยปอดอักเสบเฉลี่ยไม่เกิน 2,000 รายต่อวัน ซึ่งระบบสาธารณสุขรองรับได้ 

"สำหรับการเตือนภัยระดับ 4 เป็นการขอความร่วมมือ เพื่อให้สถานการณ์ของโรคที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม แต่ไม่เพิ่มมากรุนแรง จึงมีมาตรการผ่อนคลายแบบระมัดระวังในทุกระยะ และปรับแผนตามแต่ละช่วงของสถานการณ์ได้ตลอดเวลา" พญ.สุมนี กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับ 10 จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด คือ กทม. 2,779 ราย ชลบุรี 1,217 ราย นครศรีธรรมราช 959 ราย สมุทรปราการ 953 ราย ระยอง 754 ราย นนทบุรี 739 ราย สมุทรสาคร 704 ราย ภูเก็ต 649 ราย ราชบุรี 570 รนาย และบุรีรัมย์ 548 ราย ส่วน 10 จังหวัดที่มีผู้ป่วยปอดอักเสบมากที่สุดคือ กทม.178 ราย ครองเตียง 26.20 % สมุทรปราการ 88 ราย ครองเตียง 42% บุรีรัมย์ 63ราย ครองเตียง  7.20% นนทบุรี 62 ราย ครองเตียง 41.50 % ภูเก็ต 55 ราย ครองเตียง 62.70 % กาญจนบุรี 35 ราย ครองเตียง 18.30 % สุราษฎร์ธานี 35 ราย ครองเคียง 39.10 % นครศรีธรรมราช 34 ราย ครองเตียง 12.50 % นครราชาสีมา 33 ราย ครองเตียง 13.90 % และชลบุรี 33 ราย ครองเตียง 41.80 % ทั้งนี้อธิบดีกรมการแพทย์รายงานสถานการณ์การครองเตียง ภาพรวมทั้งประเทศ 58.1 % เป็นเตียงผู้ป่วยสีเขียว 66.4 % เหลือง 22.7% ส้ม 14.1 % และเตียงสีแดง 22.4% ทั้งนี้ขอความร่วมมือผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว ดูแลตัวเองที่บ้าน หรือชุมชน เพื่อสงวนเตียงให้ผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง   

สำหรับการติดเชื้อถ้าแบ่งตามคลัสเตอร์ ที่มีจำนวนคนติดเชื้อสูง ซึ่งพบมากสุด คือ สถานพยาบาล และการติดเชื้อในบุคลากรการแพทย์ มากสุดที่ กทม. 85 ราย ชลบุรี 26 ราย สมุทรปราการ 18 ราย นราธิวาส 15 ราย ปทุมธานี 14 ราย สุราษฎร์ธานี ปัตตานี บึงกาฬ จังหวัดละ 11 ราย นนทบุรี ฉะเชิงเทรา ร้อยเอ็ด จังหวัดละ 9 ราย คลัสเตอร์โรงเรียนและสถานศึกษา พบที่ร้อยเอ็ด 9 ราย พระนครศรีอยุธยา 7 ราย นอกนั้นพบเป็นคลัสเตอร์เล็กๆ น้อยกว่า 6 ราย ที่ปราจีนบุรี กาฬสินธุ์ ชลบุรี เพชรบุรี และมหาสารคาม ส่วนคลัสเตอร์ตลาด ที่สมุทรสาคร 31 ราย เป็นคลัสเตอร์เล็กๆ ในจังหวัดอื่นๆ ได้แก่ เพชรบุรี อุบลราชธานี จันทบุรี ขอนแก่น ลพบุรี และมุกดาหาร สำหรับคลัสเตอร์ที่พบการติดเชื้อน้อยลง มี 3 คลัสเตอร์คือ โรงงานและสถานประกอบการ มีรายงาน 4 จังหวัด ที่ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี สมุทรปราการ และชลบุรี คลัสเตอร์พิธีกรรม และศาสนา เจอที่งานศพ 2 จังหวัดคือ สระแก้ว กับร้อยเอ็ด คลัสเตอร์งานแต่ง 1 แห่งที่ เพชรบุรี คลัสเตอร์ที่น้อยลงมากๆ มี 2 จังหวัดคือ บึงกาฬ และขอนแก่น

(ข่าวเกี่ยวข้อง : "3 ประเทศกับอีก 1 รัฐ" ปรับโควิดเป็น "โรคประจำถิ่น" ไทยอยู่ระหว่างดำเนินการ)

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org