สธ. เสนอ ศบค. 20 พ.ค.นี้ ปรับลดพื้นที่สีคุมโควิด19 ผ่อนคลายมากขึ้น ลดเตือนภัยจาก 3 เหลือระดับ 2 ด้านปลัดสธ. เตรียมรายงานตัวเลขเข้าสู่โรคประจำถิ่นเร็วขึ้น 2 สัปดาห์ มีความเป็นไปได้ 1 ก.ค.นี้พ้นระบาดใหญ่ ชี้ปัจจุบันไม่มีพื้นที่ไหนอยู่ระยะขาขึ้น สอดคล้องจำนวนติดเชื้อ อาการหนัก เสียชีวิตลดลง เหลือ 5 จ. อยู่ในช่วงทรงตัวและค่อยๆลด
เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในกาประชุมศบค.วันที่ 20 พ.ค.นี้ กระทรวงสาธารณสุขจะมีการเสนอปรับพื้นที่สีตามระดับความรุนแรงของโรคในแต่ละพื้นที่ หากการระบาดลดลง ก็ปรับลดระดับสี และไปสอดคล้องกับมาตรการทางสังคมที่ผูกกันไว้ โดยจะมีการเสนอปรับพื้นที่สีเขียว เบื้องต้น จะมีจำนวนจังหวัดที่ได้รับการปรับประมาณเท่าๆ กับพื้นที่สีฟ้า ซึ่งปัจจุบันจังหวัดสีฟ้ามีราวๆ 16 จังหวัด ซึ่งเมื่อปรับแล้วจากนั้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก็ต้องไปพิจารณาว่าจะให้ประกอบกิจกรรม กิจการใดบ้าง ซึ่งต้องออกมาตรการควบคุม ป้องกันโรคที่สอดคล้องกับหลักเกฑณ์พื้นที่สี รวบถึงการปรับลดระดับการเตือนภัยโควิดจากระดับ 3 ลงมาเหลือระดับ 2 ก็ต้องดูตามสถานการณ์เช่นกัน
เมื่อถามถึงกรณีที่โควิดเป็นโรคประจำถิ่นจะเร็วกว่าที่คาดการณ์ประมาณครึ่งเดือน จะมีการเสนอศบค.ด้วยหรือไม่.... นพ. เกียรติภูมิ กล่าวว่า จะรายงานให้ ศบค.ทราบ ตัวเลขเร็วกว่าคาดการณ์อยู่ 2 สัปดาห์ ดูตามเหตุการณ์ไปก่อน แต่คิดว่า 1 ก.ค. คือ มีความเป็นไปได้สูงสุด ตอนนี้เลยต้องเตรียมการไว้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์การระบาดในประเทศถือว่าดีขึ้น ซึ่งจากปกติเราจะมีการกำหนดระยะขาขึ้น ระยะทรงตัว และระยะขาลง ปัจจุบันไม่มีพื้นที่ไหนที่อยู่ในระยะขาขึ้นแล้ว ส่วนใหญ่อยู่ในระยะขาลงทั้งสิ้น และลงอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกันทั้งจำนวนการติดเชื้อที่ลดลง จำนวนผู้มีอาการหนักลดลง และจำนวนเสียชีวิตลดลง ส่วนระยะทรงตัวเดิมเรามีอยู่ 20 จังหวัด ตอนนี้เหลือเพียง 5 จังหวัดที่อยู่ในระยะทรงตัวและจะค่อยๆ ลดลง คือ พะเยา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ยโสธร อุทัยธานี
เมื่อถามว่าขณะนี้ยอดฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มขึ้นไม่มากจะมีผลกระทบหรือไม่ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เรื่องการฉีดวัคซีนดำเนินต่อไป แต่เราพูดถึงภาพรวมตอนนี้ คือ ความรุนแรงของโรคลดลงด้วยตัวมันเอง ประกอบกับการฉีดวัคซีนก็จะเพิ่มการป้องกันได้มากขึ้น วิธีการ คือ การตั้งข้อกำหนดหรือเกณฑ์ เพื่อเป็นทิศทางบริหารจัดการ เนื่องจากวัคซีนเป็นของใหม่และคิดว่าต้องฉีดถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ก็จะประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเพียงพอ แต่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินอีกครั้ง ส่วนตัวมองว่า 65 เปอร์เซ็นต์น่าจะเพียงพอ เนื่องจากการติดเชื้อไม่เด้งขึ้นตั้งแต่ เปิดเทอมก็ไม่เด้งขึ้น แสดงว่าระบบภูมิคุ้มกันแต่ละบุคคลกำลังทำงานอยู่
แหล่งข่าวระดับสูงเปิดเผยว่า ในการประชุมกระทรวงสาธารณสุขครั้งล่าสุด มีการปรับสีจังหวัดใหม่ ดังนี้ สีฟ้าคงเดิมที่ 17 จังหวัด เหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง สีเขียว จากที่ไม่มีเลย ก็จะเพิ่มเป็น 14 จังหวัด ส่วนสีเหลืองเดิมมี 65 จังหวัดก็ปรับลดเหลือ 46 จังหวัด ทั้งนี้ตัวเลขเหล่านี้จะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศบค.
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : ปลัด สธ.เผยโควิดดีขึ้น! เข้าสู่โรคประจำถิ่นเร็วกว่าครึ่งเดือน
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 20049 views
