ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ไทยรับแจ้งจากออสเตรเลียพบผู้ป่วย “ฝีดาษวานร” 1 ราย มาทรานซิทในประเทศไทย ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องไปออสฯ ตรวจสอบไม่พบอาการเมื่อติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดบนเครื่องบินมี 12 ราย ล้วนเสี่ยงต่ำหมด ขณะนี้ติดตามอาการ 21 วัน เบื้องต้น 7 วันไม่พบความผิดปกติ   แนะคนไทยเดินทางไปตปท. และเดินทางกลับอย่าร่วมกิจกรรมเสี่ยง สวมแมสก์-เว้นระยะห่าง-ล้างมือบ่อยๆ  ย้ำ! หมอทุกท่านตั้งข้อสงสัยหากมีอาการสงสัย

 

เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2565 นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค(คร.)  กล่าวถึงการเฝ้าระวังโรคฝีดาษวานร ว่า   จากการตรวจสอบที่สนามบินเราพบว่า มีชาวต่างชาติ 1 รายที่บินมาจากประเทศทางยุโรป โดยเดินทางเข้ามา และแวะพักเครื่องระหว่างทางในประเทศไทย หรือทรานซิท เพื่อต่อไปยังประเทศออสเตรเลีย โดยทรานซิทประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งยังไม่มีอาการ แต่ไปพบอาการที่ประเทศออสเตรเลีย ดังนั้น รายนี้ในส่วนของผู้สัมผัสใกล้ชิดยังไม่สัมผัสเสี่ยงสูง แต่ก็มีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ที่เป็นผู้โดยสารเครื่องบินและลูกเรือรวม 12 คน ซึ่งติดตามแล้ว 7 วันยังไม่มีอาการ โดยต้องติดตามต่อไปให้ครบ 21 วัน”  นพ.จักรรัฐ กล่าว  

เมื่อถามว่าการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดในผู้ป่วยที่มาทรานซิทในประเทศไทย นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการ และมาทรานซิทในไทยไม่นาน ซึ่งระหว่างนั้นไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับใคร มีการสวมหน้ากากอนามัยตลอด  ดังนั้น ผู้สัมผัสใกล้ชิดก็จะไม่ใช่กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งตอนนี้ไม่มีอาการใดๆ อย่างไรก็ตาม โรคนี้เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ก็สามารถไปทำงานได้ตามปกติ หากมีอาการให้รีบแจ้ง แต่หากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องแยกกัก 21 วันที่บ้าน

“โดยการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดอยู่บนเครื่องบิน เนื่องจากผู้ป่วยที่เดินทางไปออสเตรเลียอีกหลายวันจึงพบเชื้อ  ยังดีที่ผู้ป่วยนั่งในชั้น Business class  นั่งห่างกันพอสมควร ซึ่งการติดเชื้อไม่ง่าย ต้องใกล้ชิดจริงๆ  ถ้าอยู่ห่างๆ ไม่ค่อย เพราะเชื้อไม่ได้ลอยไปเอง อย่างเหตุการณ์ในยุโรป จะมีการใกล้ชิด กอดจูบ ดังนั้น โรคนี้ไม่ได้ติดต่อง่าย ต้องสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยในระยะที่ป่วยด้วย”  นพ.จักรรัฐ กล่าว

ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กล่าวว่า  กรณีสอบสวนนักท่องเที่ยวไอรแลนด์ 3 รายที่มีผื่นตุ่มหนองนั้น พบว่าเป็นพี่น้องกัน  รายที่ 1 เพศชาย อายุ 30 ปี รายที่ 2 เพศชายอายุ 27 ปี และรายที่ 3 เพศชายอายุ 20 ปี ผลสอบสวนโรค ผู้ป่วยรายที่ 1 มีอาชีพแพทย์ วันที่ 21 พ.ค.เริ่มมีผื่นที่แขนซ้าย อีก 2 วันถัดมาเริ่มมีไข้ 38.9 องศา รัยาคลินิกเอกชนจ.ภูเก็ต ผู้ป่วยรายที่ 2 อาชีพนักแสดง วันที่ 21 พ.ค.65 เริ่มมีผื่นที่หลัง ด้านขวาและคอ รับประทานยา และอาการไม่ดีขึ้น ส่วนรายที่ 3 เป็นนักศึกษา วันที่ 22 พ.ค.เริ่มมีผื่นที่รักแร้ซ้าย รับประทานยา อาการไม่ดีขึ้น โดยทั้งหมดคลุกคลีใกล้ชิดกันตลอดเวลาที่อยู่ในไทย แต่ไม่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยฝีดาษวานร ที่ไอร์แลนด์  แต่เมื่ออยู่ไทยมีการแบ่งกันใช้อุปกรณ์ชกมวย กระสอบทรายร่วมกันในยิมเดียวกัน และมีประวัติเพศสัมผัสกับหญิงไทย อย่างไรก็ตาม พบผู้ป่วยสงสัยเพิ่มเติม 2 รายที่ยิมเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการผู้ป่วยสงสัยทั้งหมด 5 รายไม่พบฝีดาษวานร เป็นเชื้อเริม

เมื่อถามว่าเชื้อฝีดาษวานรจะอยู่บนสิ่งของนานแค่ไหน นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ยังต้องติดตามข้อมูลต่อ

เมื่อถามถึงมีนักวิชาการะบุว่าเชื้อนี้แพร่เร็ว 10 เท่า นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ต้องติดตามข้อมูลเช่นกัน เพราะยังไม่ได้รับการยืนยันจากองค์การอนามัยโลก

นพ.จักรรัฐ กล่าวย้ำว่า สำหรับคนที่ไปร่วมงานเฟสติวัลในต่างประเทศ หรือร่วมกิจกรรมที่มีความเสี่ยง หากมีอาการและมาพบแพทย์ขอให้แจ้งแพทย์ด้วยว่า มีประวัติร่วมกิจกรรม อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนไทยที่เดินทางกลับมานั้น หากเราไม่ได้ร่วมกิจกรรมเสี่ยง และยังปฏิบัติตัวตามมาตรการส่วนบุคคล ทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะป้องกันโควิด และฝีดาษวานร และโรคอื่นๆได้  ซึ่งคนไทยที่จะเดินไปต่างประเทศก็เช่นกัน ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล ไม่ร่วมกิจกรรมเสี่ยงก็จะป้องกันได้

“สำหรับคุณหมอที่อายุน้อยกว่า 60 ปี อาจไม่เคยเห็นลักษณะฝีดาษ จึงขอให้ตั้งคำถามสงสัยว่า เป็นฝีดาษลิง ก่อนโดยพิจารณาจากประวัติเสี่ยง ซึ่งผู้ที่เข้ามาในบริการในรพ.ทุกท่านหากมีประวัติร่วมกิจกรรมเสี่ยง ขอให้แจ้ง ไม่ต้องกังวลโรคนี้ ส่วนใหญ่หายเอง จะได้รับการรักษาและจะลดการแพร่ระบาดไปสู่คนอื่นได้” นพ.จักรรัฐ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวเกี่ยวข้อง : เปิดนิยาม “ผู้ป่วยสงสัย-ผู้เข้าข่าย-ผู้ป่วยยืนยัน” ฝีดาษวานร 

 

ขอบคุณภาพจากกรมควบคุมโรค

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org