ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองเลขาฯเตือนโรงพยาบาลเอกชนอย่าหลงเชื่อ! ผู้ไม่หวังดีอ้างชื่อ สปสช. เรียกรับผลประโยชน์มิชอบช่วยให้ได้รับเงินค่าใช้จ่ายบริการสาธารณสุขกรณีโควิด และอื่นๆ ได้เร็วขึ้น ยืนยันทำไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนตามระเบียบถูกต้อง  ส่วนคนในมีเอี่ยวหรือไม่ เร่งตรวจสอบ ขณะที่หน่วยบริการใดถูกแอบอ้าง ให้แจ้งข้อมูลมาที่ สปสช.ทันที

 

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2565 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า สปสช.ได้รับทราบว่าขณะนี้มีบุคคลได้แอบอ้างชื่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบจากหน่วยบริการเอกชน โดยแอบอ้างว่าจะช่วยให้ได้รับเงินค่าใช้จ่ายบริการสาธารณสุขกรณีโรคโควิด-19 หรือค่าบริการสาธารณสุขรายการอื่นๆ ได้เร็วขึ้น สปสช.ขอยืนยันว่า สปสช.ไม่มีนโยบายให้ดำเนินการดังกล่าว การแอบอ้างชื่อ สปสช.ไปเรียกรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใดจากหน่วยบริการเป็นเรื่องผิดกฎหมายและถือเป็นการทุจริต ขอให้หน่วยบริการอย่าหลงเชื่อ และหากมีบุคคลใดแอบอ้างชื่อ สปสช.ไปใช้เพื่อกระทำการดังกล่าว สปสช.จะดำเนินการเอาผิดจนถึงที่สุด

 

ทั้งนี้ สปสช.ขอเรียนชี้แจงหน่วยบริการทุกแห่งว่า การเบิกจ่ายเงินชดเชยค่าบริการสาธารณสุขจาก สปสช.นั้น ดำเนินการไปตามกระบวนการและกฎหมาย ต้องผ่านการตรวจสอบก่อนการเบิกจ่าย เพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบการใช้งบประมาณภาครัฐ ระบบการเบิกจ่ายงบประมาณค่าบริการสาธารณสุขของ สปสช.นั้นถูกออกแบบให้มีความรัดกุมอย่างมากเพื่อป้องกันการทุจริต โดยจะมีการตรวจสอบและยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน ไม่สามารถมีบุคคลใดมาลัดขั้นตอนการเบิกจ่ายให้ได้

 

เมื่อถามว่ามีรายงานเรื่องการเรียกรับเงินเข้ามามากน้อยแค่ไหน  ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เยอะ มีรายงานเข้ามารายหนึ่ง ซึ่งทางเราแปลกใจ และไม่ทราบว่ายังมีที่อื่นอีกหรือไม่ที่โดนลักษณะแบบนี้ จึงประกาศให้สถานพยาบาลต่างๆ ระมัดระวัง ถ้าเจอก็ให้แจ้งเรามา ซึ่งรายที่แจ้งมานั้น ก็มีการให้รายละเอียดของผู้ที่โทรเข้ามาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการกระบวนการตรวจสอบ แต่รายละเอียดต่างๆ ยังต้องขอหารือกับทางฝ่ายกฎหมายก่อน

 

"ช่วงโควิดค่อนข้างมะรุมมะตุ้ม แต่การเบิกจ่ายยืนยันว่าเรามีกระบวนการตรวจสอบข้อมูล เช่น คนไข้โควิดไปทำ Home Isolation คนไข้ก็ต้องยืนยันตัวตน ให้คนไข้ถ่ายรูป ตอน สปสช.จะจ่ายก็ต้องเอามาตรวจสอบก่อนจ่าย จริงๆ เราอยากจ่ายให้เร็ว แต่การตรวจสอบก็อาจทำให้การเบิกจ่ายไม่รวดเร็วนัก จึงมีคนไม่หวังดีแอบอ้างเป็น สปสช.ว่าจะช่วยให้จ่ายเร็วเร็วขึ้น ซึ่งยืนยันว่าทำไม่ได้ เพราะกระบวนการไม่ได้เข้าถึงหรือทำโดยบุคคล แต่เป็นโดยระบบคอมพิวเตอร์ จึงไปทำให้กระบวนการจ่ายเงินเร็วขึ้นไม่ได้" ทพ.อรรถพรกล่าว

 

เมื่อถามว่าการมาแอบอ้างแบบนี้กังวลว่าอาจจะเป็น "คนใน" หรือไม่  ทพ.อรรถพรกล่าวว่า อย่างที่บอกว่าโดยระบบของเรา ไม่มีบุคคลเข้าไปทำได้ที่จะช่วยให้จ่ายเงินเร็วขึ้น ถ้าเป็นการแอบอ้างจะมีความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เราจะตรวจสอบว่าผู้ที่แอบอ้างคือใคร ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคนนอกหรือคนในล้วนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็จะมีการดำเนินการเอาเรื่องอย่างถึงที่สุด

 

“หากหน่วยบริการใด ถูกบุคคลแอบอ้างชื่อ สปสช.เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ ขออย่าหลงเชื่อ อย่าได้โอนเงินโดยเด็ดขาด และขอให้แจ้งเรื่องมาที่เลขาธิการ สปสช.ตามแบบฟอร์มนี้ สปสช.จะดำเนินการสอบสวนและติดตามเอาผิดจนถึงที่สุด เพื่อป้องกันการทุจริต” ทพ.อรรถพร กล่าว

 

แบบฟอร์มแจ้งข้อมูลบุคคลแอบอ้างชื่อ สปสช.เรียกรับผลประโยชน์จากหน่วยบริการ

https://forms.gle/MpwYc69TAMH5FepZ6

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org