ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศิริราชเผย "โอมิครอน" ทำป่วยปอดอักเสบน้อยกว่าเดลต้า 5 เท่า แต่กลุ่ม 608 พบเสี่ยงสูง และกว่าครึ่งไม่รับวัคซีนป้องกันโควิด ย้ำความสำคัญฉีดบูสเตอร์ช่วยลดความรุนแรง และเสียชีวิตได้ ขณะที่ข้อมูล ศบค.- สธ. เผยการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ของไทยยังไม่ถึง 50%

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2565 รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด -19 ในประเทศไทย ว่า  จากรายงานของศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด 19 หรือ ศบค. ที่รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเข้ารักษาในรพ.ราวหมื่นคน ปอดอักเสบประมาณ 800 ราย  ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรักษาแล้วดูแลตัวเองที่บ้านคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 หมื่นราย ซึ่งสัดส่วนที่เป็นปอดอักเสบถือว่าค่อนข้างน้อย ประมาณ 8% ของคนที่เข้ารพ. ถ้าเทียบกับสมัยการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าจะพบผู้ป่วยปอดอักเสบประมาณ 30-40% ดังนั้นการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนล่าสุดถือว่าทำให้มีสัดส่วนผู้ป่วยปอดอกเสบน้อยกว่าเดลต้าประมาณ 5 เท่า

“แต่ถ้าเทียบความรุนแรงของภาวะปอดอักเสบแล้วนั้นไม่แตกต่างกันระหว่างสายพันธุ์โอมิครอน และเดลต้า แต่สายพันธุ์โอมิครอนรอบนี้ คนที่ปอดอักเสบส่วนใหญ่เป็นคนที่มีสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เป็นกลุ่ม 608 และกว่าครึ่งหนึ่งไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิดด้วยเหตุผลต่างๆ และอีกประมาณครึ่งหนึ่งอาจจะได้รับวัคซีน 1 เข็มบ้าง 2 เข็มบ้าง ที่รับวัคซีนเข็มกระตุ้นมีน้อยมาก” รศ.นพ.นิธิพัฒน์ กล่าว และว่า ดังนั้นการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ จึงขอให้ประชาชนไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากเพียงพอเพื่อป้องกันการป่วยหนัก เสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขเผยข้อมูลสถานการณ์โรคโควิด19 วันที่ 15 ก.ค.2565  พบผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 1,795 ราย โดยผลตรวจPCR และ ATK ที่เข้าระบบ โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,795 ราย ไม่พบติดเชื้อจากต่างประเทศในวันนี้ ขณะที่ตัวเลขหายป่วย 1,920 ราย โดยผู้ป่วยอาการหนัก 789 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 348 ราย สัดส่วนครองเตียงระดับ2-3 อยู่ที่ 12.40% ส่วนผู้เสียชีวิต 23 ราย

โดยกรมควบคุมโรค เผยข้อมูลสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิต มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. ถึงวันที่ 15 ก.ค. 2565  โดยผู้ป่วยปอดอักเสบ ข้อมูลวันที่ 2 ก.ค.พบ 675 รายเพิ่มสูงขึ้นเป็น 789 รายในวันที่ 15 ก.ค. ขณะที่ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเช่นกัน จาก 290 ราย เป็น 348 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 14 วัน พบ 17 ราย เป็น 21 ราย ส่วนใหญ่กลุ่ม 608 และไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ได้รับวัคซีนโควิดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2564- 14 ก.ค.2565 จำนวน 140,651,239 โดส โดยเข็มที่ 1 ฉีดแล้วสะสม 57,056,074 ราย เข็มที่ 2 ฉีดสะสมแล้ว 53,327,366 ราย เข็มที่ 3 ขึ้นไปฉีดสะสมแล้ว 30,267,799 ราย   อย่างไรก็ตาม หากคิดสัดส่วนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือเข็ม 3 ขึ้นไป ยังพบเพียง 43.5%