ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศบค.รับทราบการบริหารจัดซื้อยาต้านไวรัสรักษาโควิด19 ล่าสุด 1 ก.ย.นี้ รพ.นอกสังกัด สธ.จัดซื้อยาได้เอง ส่วนร้านยาจ่ายยาได้ตามใบสั่งแพทย์ ส่วนรพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จัดซื้อยาได้เริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค.65  

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน  โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า  ที่ประชุมรับทราบเรื่องยาต้านไวรัส รักษาโควิดยังคงมีเพียงพอ และการใช้ต้องใช้ยาอย่างมีเหตุผล อย่างการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ และโมลนูพิราเวียร์ ภาพรวมลดลง เพราะจริงๆ หากไม่มีอาการ หรือไม่มีความเสี่ยงไม่ต้องใช้ยา 
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการเตรียมความพร้อมเรื่องยา กระทรวงสาธารณสุขนำเสนอว่า  ขณะนี้ อย. ได้เร่งรัดการขึ้นทะเบียนยา และองค์การเภสัชกรรมได้เตรียมการสำรองยา  มีกองทุนเตรียมความพร้อมในการดำเนินการจัดซื้อยา และในวันที่ 20 ก.ค. 2565  ได้ประกาศให้มีการกระจายยาไปยังคลินิกเวชกรรมได้ 

"โดยตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2565 หน่วยบริการนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจะจัดซื้อยาได้เอง และร้านยาสามารถจ่ายยาได้ตามใบสั่งแพทย์ เริ่มวันที่ 1 ก.ย.นี้เช่นกัน ขณะที่หน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจัดซื้อยาได้เองเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 จะทำให้คล่องตัวมากขึ้น ตามปริมาณผู้ป่วยที่ดูแล " นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

 

อนึ่ง สำหรับข้อมูลปริมาณการใช้ยา(เม็ด) เฉลี่ยรายวันของยาฟาวิพิราเวียร์ และยาโมลนูพิราเวียร์ และจำนวนผุ้ป่วยที่ใช้ยาเฉลี่ยต่อวัน ข้อมูลวันที่ 15 ส.ค.2565   โดยพบว่า มีจำนวนผู้ใช้ยาวันละ 13,957 ราย อัตราการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์เฉลี่ยวันละ 402,309 เม็ด ยาโมลนูพิราเวียร์เฉลี่ยวันละ  236,446 เม็ด  ทั้งนี้ มีแนวโน้มการใช้ยาฟาวิฯ ลดลง จากที่เคยใช้สูงสุดถึงวันละประมาณกว่า 825,000 เม็ดในช่วงสัปดาห์แรกเดือน ก.ค.  ส่วนยาโมลนูฯ มีแนวโน้มการใช้เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์แรกของเดือน ส.ค. ที่ใช้เฉลี่ยวันละ 166,413 เม็ด เป็น 236,446 เม็ดของสัปดาห์ที่ 2 เดือน ส.ค.