ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 ก.ย. ได้เห็นชอบโครงการค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  ปี 2565  รอบที่ 5  ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับหน่วยบริการ สถานพยาบาล ที่ให้บริการสาธารณสุขโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด19  สำหรับประชาชนทุกคนที่อาศัยในประเทศไทย ในช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายน 2565 รวม 3 เดือน วงเงิน 27,562.56 ล้านบาท  โดยให้ใช้จ่ายจากพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564) วงเงิน 25,845.84 ล้านบาท  ส่วนที่เหลืออีก 1,716.71 ล้านบาท ให้ สปสช. ดำเนินการโดยใช้จ่ายจากแหล่งอื่น อาทิ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นลำดับแรก

ทั้งนี้ ครม. ได้มอบหมายให้ สปสช. เร่งดำเนินการตรวจสอบค่าใช้จ่ายในกลุ่มที่หน่วยบริการ สถานพยาบาลที่อยู่ระหว่าง หรือคาดว่าจะส่งเบิกทันตามเวลาที่กำหนดไว้ (ธ.ค. 2565)  ว่ามีการบริการจริง พร้อมทั้งรวบรวมและจัดเก็บเอกสารค่าใช้จ่ายเพื่อรองรับการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อไป 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  พร้อมกันนี้ ครม. ได้อนุมัติหลักการกลุ่มโครงการที่เกี่ยวกับค่าตอบแทนแก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 6 โครงการซึ่งเกี่ยวกับการการดูแลโรคโควิด19 รวมวงเงิน 13,124.102 ล้านบาท ซึ่งแยกเป็นการจ่ายค่าตอบแทนแก่บุคลากรทางการแพทย์โดยตรง วงเงิน 12,123.109 ล้านบาท  และ กลุ่มบุคลากรอื่นๆ ที่ปฏิบัติงานด้านการสนับสนุน วงเงิน 2,167.354 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้ใช้จ่ายจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 จำนวน 12,123.109 ล้านบาท  ส่วนที่เหลือ 1,000.99 ล้านบาท ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาใช้จ่ายจากแหล่งอื่นที่เหมาะสมต่อไป

สำหรับ 6 โครงการดังกล่าว ประกอบด้วย ประกอบด้วย 1) โครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่:กรณีโรคิดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกองสาธารณสุขฉุกเฉิน 2) ค่าตอบแทนบุคลากรนอกภารกิจปกติ ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 3) โครงการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด19 ของกรมการแพทย์

4) โครงการจ่ายค่าตอบแทนการเสี่ยงภัยในการปฏิบัติงานบริการรองรับผู้ป่วยโควิด19 ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 5) โครงการจ่ายค่าตอบแทนการเสี่ยงภัยในการปฏิบัติงานบริการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 ของกรมสุขภาพจิต และ6)โครงการสนับสนุนการจัดบริหารทางกาแพทย์และสาธารณสุขรองรับการระบาดของโควิด19 ของกรมอนามัย