ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

อย. พบการแอบแฝงโฆษณาสเปรย์ล้างจมูกยับยั้งหรือฆ่าเชื้อไวรัส บิดเบือนสรรพคุณผลิตภัณฑ์ สร้างความเข้าใจผิดให้ผู้บริโภค ด้านคณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหิดล แถลงยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการอ้างสรรพคุณสเปรย์ดังกล่าว ทั้งการผลิต ขึ้นทะเบียน จำหน่าย หรือกิจกรรมอื่นใด  ย้ำ!  มีหน้าที่ให้บริการทางวิชาการทดสอบประสิทธิภาพทางห้องปฏิบัติการเท่านั้น  ยังไม่ได้ทดลองในมนุษย์  ไม่พบประสิทธิภาพชัดเจน

 

เมื่อวันที่ 17 พ.ย.  นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า  จากกรณีผลิตภัณฑ์สเปรย์ล้างจมูก  ได้รับการจดแจ้งเครื่องมือแพทย์ เลขที่ 65-1-3-2-0000818 มีวัตถุประสงค์การใช้งานและข้อบ่งใช้ คือ สำหรับพ่นจมูก ใช้เมื่อเริ่มมีอาการเป็นหวัดหรือมีอาการคล้ายหวัด เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุโพรงจมูกเนื่องจากอากาศแห้ง ช่วยลดและบรรเทาอาการคัดจมูก ซึ่งภายหลังปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ว่ามีการแถลงผลการทดสอบฤทธิ์ของสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งอยู่ในสูตรส่วนประกอบ ควบคู่กับการแอบแฝงโฆษณาผลิตภัณฑ์ ทำให้เข้าใจว่าผลิตภัณฑ์สามารถยับยั้งหรือฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสโคโรน่า 2019 และไวรัสอาร์เอสวี ต้านการอักเสบ ฯลฯ ได้

“สิ่งเหล่านี้ เป็นการสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนกับผู้บริโภค เนื่องจากผลการทดสอบฤทธิ์ดังกล่าว เป็นเพียงผลการทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดฯในห้องปฏิบัติการเบื้องต้นเท่านั้น ทั้งนี้ ยังคงต้องทำการศึกษาวิจัยในมนุษย์เพิ่มเติมเพื่อยืนยันฤทธิ์ดังกล่าว แล้วจึงนำผลการศึกษา ยื่นขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในสรรพคุณใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป”  รองเลขาธิการ อย. กล่าว

นพ.สุรโชค กล่าวอีกว่า   จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมกันลดปัญหาการโฆษณาแฝงผลิตภัณฑ์เพื่อประโยชน์ทางการค้า ผ่านการแถลงผลงานวิจัยหรือผลการทดสอบต่าง ๆ เพราะนอกจากจะสร้างความเข้าใจผิดให้ผู้บริโภคแล้ว ยังเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยในขณะนี้ อย. ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในกรณีข้างต้นแล้ว ทั้งนี้   การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการอนุมัติสรรพคุณจาก อย. ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น และการโฆษณาต้องผ่านการอนุมัติจาก อย. เช่นกัน  นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เช่น การสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าไปในสถานที่ผู้คนแออัดหรือพื้นที่ปิด อากาศไม่ถ่ายเท การล้างมือ การเว้นระยะห่างต่อไป

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย.

 

** วันเดียวกัน  ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล  จัดแถลงข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจกรณีผลิตภัณฑ์สเปรย์ดังกล่าว  โดย รศ.นพ.วีระพงษ์ ภูมิรัตนประพิณ คณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหิดล แถลงว่า คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหิดล ได้รับการร้องขอให้ทดสอบประสิทธิภาพในห้องปฏิบัติการ ซึ่งดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการไวรัส ภาควิชาจุลชีววิทยาและอิมมิวโนโลยี คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ในการยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจ SARs-CoV-2 (COVID-19), Influenza A (H1N1), Human Coronavirus 229E, และ Enterovirus 71 (EV71)    ต่อผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นจมูกดังกล่าวตามวิธีมาตรฐานในห้องปฏิบัติการเท่านั้น แต่ยังมิได้มีการทดลองหรือทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นี้ในมนุษย์  และผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการนี้ยังไม่ได้บอกถึงประสิทธิภาพการใช้ในมนุษย์  ซึ่งยังคงต้องมีขั้นตอนการทดสอบในอาสาสมัครตามขั้นตอนหลักวิชาการต่อไป

“ส่วนบทบาทของคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นการให้บริการทางวิชาการเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในห้องปฏิบัติการเท่านั้น   ซึ่งเป็นบริการทางวิชาการตามปกติที่คณะฯ ให้บริการอยู่  คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล  ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการผลิต การขออนุญาตขึ้นทะเบียน การจัดจำหน่าย หรือกิจกรรมอื่นของผลิตภัณฑ์แต่อย่างใดทั้งสิ้น” รศ.นพ.วีระพงษ์ กล่าว

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง