ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน” เผยของขวัญปีใหม่ 2566 เดินหน้าผู้สูงอายุสุขภาพดี ลั่นจริงๆ เป็นแค่สัญลักษณ์ เพราะมีของขวัญทุกวัน ส่วนบุคลากรสาธารณสุข ผู้บริหารสธ.ให้ความสำคัญหมด ล่าสุดปลัดสธ.ดำเนินการเพิ่มค่าตอบแทน  พร้อมย้ำ! ทำงานต้องไม่หวังผล ขณะที่อธิบดี สบส. เผยเตรียมของบฯเพิ่มค่าป่วยการจาก 1,000 บาท เป็น 1,500 บาทต่อเดือนของปี 66   

 

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ว่า การประชุมผู้บริหารฯ วันนี้เป็นครั้งสุดท้ายของปี 2565 ซึ่งมีหลายเรื่อง โดยเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือ เรื่องของขวัญปีใหม่ 2566 จะเน้นการดูแลผู้สูงอายุ เพราะประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงอายุเต็มรูปแบบ ต้องมีการเตรียมการต่างๆในการดูแลผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ และมีการวางนโยบายให้กองยุทธศาสตร์และแผนงาน หรือกยผ. เร่งทำการศึกษาและวางแผนวางยุทธศาสตร์ วิธีการต่างๆ ในการรองรับสังคมผู้สูงอายุที่จะเกิดขึ้น ให้พวกเขาสุขภาพดี ดูแลตัวเองได้ ไม่ใช่อายุยืนยันเพราะสรรพคุณยา แต่ต้องมีคุณภาพจากการดูแลตัวเองได้ โดยได้มอบหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้ ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ  ไม่ใช่ผู้ป่วยติดเตียง  นี่คือแผนยุทธศาสตร์ที่กระทรวงสาธารณสุขจะขับเคลื่อนต่อไป

นอกจากนี้ ยังพัฒนาแนวทาง 3 หมอ คือ หมอ อสม. หมอ รพ.สต. และหมอครอบครัว ต้องสอดคล้องประสานงานอย่างเต็มที่ ใช้เทคโนโลยีทั้งหมดที่มีอยู่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อลดภาระความแออัดการบริการสุขภาพ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยยิ่งขึ้น  

ผู้สื่อข่าวถามว่าของขวัญปีใหม่จะมีแค่ผู้สูงอายุเรื่องเดียวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันเป็นสัญลักษณ์ ของขวัญมีทุกวันอยู่แล้ว เป็นสัญลักษณ์ที่รัฐบาลให้ทุกกระทรวงนำเสนอ ซึ่งส่วนของกระทรวงสาธารณสุขการนำเรื่องผู้สูงอายุขึ้นมา เพราะเราจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่ขณะเดียวกันเราไม่ได้ดูแลผู้สูงอายุอย่างเดียว หากเราดูแลอย่างดีก็จะไม่เป็นภาระของลูกหลาน ไม่เป็นภาระงบประมาณ ประเทศเราหนีสังคมสูงอายุไม่พ้น จึงต้องเตรียมความพร้อมเรื่องนี้ จริงๆ เราดูทุกมิติทั้งหมด เรายังดูโอกาสให้ผู้สูงอายุด้วย ไม่ใช่ว่าเขาทำงานไม่ได้ คอยพึ่งพารับการช่วยเหลืออย่างเดียว แบบนี้จะก่อปัญหาสังคม จะทำให้ลูกหลานห่วงอีก จึงต้องเตรียมพร้อมทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมีของขวัญปีใหม่ของบุคลากรสาธารณสุขด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านปลัดสธ.กำลังดูแลอยู่ ทำงานอย่าไปหวังผลตอบแทน หากเป็นลูกจ้างบริษัท ห้างร้านสิ่งที่ต้องมีคือ เงินเดือน ส่วนระบบราชการ ความมั่นคงของระบบอย่างน้อยไม่ตกงานแน่นอน ไม่ว่ามีวิกฤตอะไรก็ตาม เพราะเป็นข้าราชการลูกจ้างของรัฐ ยังมีการเพิ่มขั้น ขยับปรับตำแหน่ง เพิ่มเงินเดือน ส่วนเรื่องผลตอบแทนนอกเหนือจากนี้ขึ้นกับสถานการณ์ เรามีภารกิจหลักของเราอยู่แล้ว เป็นราชการก็ทำงานให้บ้านเมือง รับใช้ประชาชน เพราะหากยึดผลตอบแทน รายได้เป็นหลักคงไม่มารับราชการ เราต้องทำหน้าที่หลักอย่างเต็มที่

“ท่านปลัดสธ.เข้ารับตำแหน่งแค่  1 เดือนกว่าๆ เมื่อมีโอกาส ท่านพิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว อย่างเงินบำรุงเมื่อมีเพียงพอ มีงบประมาณบริหารจัดการกำหนดเป็นนโยบายได้ ก็ผลักดันทันที โดยมอบให้นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดสธ. ดูแล ทุกวันนี้ทั้งสองท่านเจอผมก็พูดเรื่องนี้ สิ่งสำคัญเรื่องนี้ไม่มีข้อแลกเปลี่ยน” นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนันบสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวว่า ในส่วนของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) เรื่องค่าป่วยการขณะนี้ยังเป็น 1,000 บาทต่อเดือน มีการของบประมาณกลาง เพื่อขอเพิ่มให้อสม.เป็น 1,500 บาทต่อเดือนในปี 2566 ซึ่งภาระงานอสม.ก็เพิ่มขึ้น  ขณะอยู่ระหว่างดำเนินการ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง