ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ชี้กรณีการโอนถ่ายภารกิจของสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด ไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลสุขภาพประชาชนของ อสม. อีกทั้ง อสม.ทุกคนยังคงเป็นบุคลากรสำคัญที่อยู่ภายใต้การดูแล และสนับสนุนของกระทรวงสาธารณสุขเฉกเช่นเดิม

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากสถานการณ์การถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 3,263 แห่ง และจะมีการถ่ายโอนภารกิจฯ เพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2567เป็นเหตุให้พี่น้องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) บางท่านอาจจะเกิดความสับสนถึงแนวทางการปฏิบัติงาน ว่าจะมีแนวทางการปฏิบัติงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และจะต้องโอนย้ายไปสังกัดกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเช่นดียวกับเจ้าหน้าที่ สอน. และ รพ.สต. หรือไม่

จึงขอนำเรียนในประเด็นดังกล่าวกับพี่น้อง อสม.ทุกท่านว่า ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. 2554 หมวด 3 ว่าด้วยบทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบของ อสม. ข้อ 27 (9) ได้ระบุให้ อสม. มีหน้าที่ “ประสานการดำเนินงานสาธารณสุขในชุมชนและปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงองค์กรพัฒนาชุมชนอื่นๆ ในท้องถิ่น” ซึ่งการถ่ายโอนภารกิจฯ ไปยัง อบจ. ครั้งนี้ เป็นการโอนถ่ายภารกิจฯ ไปยังองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น จึงไม่ส่งผลกระทบกับบทบาทหน้าที่ในการดูแลสุขภาพประชาชนของ อสม. โดยเฉพาะการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญ อย่างนโยบาย 3 หมอ ซึ่งมี อสม. เป็นผู้ดำเนินการในฐานะหมอคนที่ 1 หมอประจำบ้าน และมีความใกล้ชิดกับชุมชนมากที่สุด ประการสำคัญ พี่น้อง อสม. ทุกท่านยังคงเป็นบุคลากรสำคัญที่อยู่ภายใต้การดูแล และให้การสนับสนุนโดยกระทรวงสาธารณสุขเฉกเช่นเดิม

ด้าน นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบาย “คนไทยสุขภาพดี เศรษฐกิจมั่งมี” งานสาธารณสุขมูลฐานเป็นรากฐานและกลไกสำคัญที่จะทำให้เกิดความมั่นคงด้านสุขภาพ ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชน พี่น้อง อสม.ทุกท่านจึงถือเป็นบุคลากรสำคัญที่จะขาดไปมิได้ กรม สบส.ขอยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขจะยังคงให้การสนับสนุนในด้านการพัฒนาศักยภาพ องค์ความรู้ สิทธิสวัสดิการ และการสนับสนุนค่าป่วยการ อสม. เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และปีต่อๆ ไป เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ในการที่ “ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแรง”