ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

บรรดาบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กของญี่ปุ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจครอบครัวกำลังทยอยปิดตัวลงทั้งๆ ที่กิจการยังดำเนินไปได้ด้วยดีและมีกำไร เนื่องจากเจ้าของเดิมที่อยู่ในวัยสูงอายุไม่มีผู้สืบทอดกิจการต่อ นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าประชากรผู้สูงอายุกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามของโลก

ฮิเดะคะสุ โยโกยามะ ใช้เวลากว่า 30 ปีในการสร้างธุรกิจลอจิสติกส์ที่เฟื่องฟูบนเกาะฮอกไกโดทางตอนเหนือของญี่ปุ่น แต่เมื่อปีที่แล้วเขากลับต้องตัดสินใจยกธุรกิจนี้ให้คนอื่น เพราะลูกๆ ไม่มีใครสนใจรับไม้ต่อ และตัวเขาเองก็อายุ 73 ปีแล้ว

อนาคตของบริษัทผลิตเข็มฉีดยาสุดบางที่ไม่สร้างความเจ็บปวด โอคาโนะ โคเกียว (Okano Kogyo) ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1924 และมีชื่อเสียงในระดับสากลในเรื่องเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ก็ไม่ต่างกัน เนื่องจากทายาทหญิงทั้งสองคนของ มาซายูกิ โอกาโนะ วัย 89 ปี เลือกเดินเส้นทางอื่น

อีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างความช็อกไปทั่วโลกเมื่อประกาศว่าจะปิดกิจการคือ บริษัทชอล์กไร้ฝุ่น ฮาโกโรโมะ ชอล์ก (Hagoromo Chalk) หลังจากเปิดมา 83 ปี โดยชอล์กของที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นชอล์กโรลส์รอยซ์และเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาครูๆ โดยเฉพาะครูคณิตศาสตร์ แต่ทาคายาสุ วาตานาเบ ประธานบริษัทต้องเลือกปิดกิจการและส่งเครื่องจักรผลิตชอล์กที่ยังเหลืออยู่ไปยังเกาหลีใต้เพราะไม่มีคนสืบทอดกิจการต่อ

ปัญหาของทั้งสามบริษัทนี้เป็นตัวอย่างของหนึ่งในผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรงจากสังคมผู้สูงอายุของญี่ปุ่น การปิดตัวลงของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กหลายแห่งเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากจำนวนประชากรของญี่ปุ่นลดลงเรื่อยๆ แต่ผู้กำหนดนโยบายเกรงว่าประเทศอาจได้รับผลกระทบจากการปิดตัวลงเนื่องจากเจ้าของผู้สูงอายุเกษียณกันหมด

การนำเสนอเรื่อง “วันสิ้นโลก 2019 ” ของกระทรวงพาณิชย์ญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ภายในปี 2025 จะมีธุรกิจที่ยังทำรายได้ราว 630,000 แห่งต้องปิดตัวลง

เมื่อบวกกับการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ค่อนข้างอ่อนแออยู่แล้ว รัฐบาลจึงเร่งเข้ามาจัดการด้วยความหวังว่าจะหลีกเลี่ยงหายนะได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดโครงการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่เจ้าของกิจการสูงวัย เกี่ยวกับตัวเลือกในการดำเนินธุรกิจต่อไปหลังจากที่พวกเขาเกษียณ รวมทั้งการตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านการจัดหาผู้ที่จะมารับซื้อกิจการต่อ ไปจนถึงสนับสนุนงบประมาณอุดหนุนและยกเว้นภาษีให้เจ้าของใหม่ที่เข้ามาซื้อกิจการเหล่านี้

แต่ถึงอย่างนั้นความท้าทายนี้ก็ยังยากที่จะจัดการ ชินอิจิโร คาวาตะ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของญี่ปุ่นเผยว่า “ปัญหาการหาผู้สืบทอดกิจการกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก การควบรวมกิจการ (M&A) ไม่เป็นที่นิยมนัก หลายคนรู้สึกว่าปิดกิจการดีกว่าขายกิจการ”

อีกทั้งการหาผู้ที่จะมารับซื้อกิจการต่อก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อปี 2021 ศูนย์ช่วยเหลือของทางรัฐบาลและท็อป 5 ของบริษัทที่ให้บริการด้านการควบรวมกิจการ หาผู้มารับซื้อกิจการที่เจ้าของอายุมากและต้องการเกษียณแต่ไม่มีผู้สืบทอดกิจการได้เพียง 2,413 กิจการเท่านั้น ขณะที่อีก 44,000 กิจการที่ไม่มีคนซื้อก็ต้องปิดตัวถาวร และ 55% ของกิจการเหล่านี้ยังทำกำไรได้อยู่ขณะที่ถูกปิด

ที่น่าห่วงคือ กิจการเหล่านั้นส่วนใหญ่อยู่ในเมืองเล็กๆ ซึ่งมีปัญหาเรื่องการสืบทอดกิจการอยู่แล้ว เนื่องจากคนหนุ่มคนสาวมักจะย้ายออกไปอยู่ในเมืองใหญ่ๆ แทน ดังนั้นการปิดตัวของกิจการเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นนายจ้างรายใหญ่ในท้องถิ่นหรือร้านขายของชำเพียงแห่งเดียวในหมู่บ้าน ก็อาจทำให้สถานที่เหล่านั้นอยู่รอดได้ยากขึ้น เนื่องจากจำนวนประชากรสูงอายุที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และการย้ายออกไปอยู่ในเมืองใหญ่ที่ทำให้เมืองเล็กๆ แทบจะกลายเป็นเมืองร้าง

ข้อมูลเมื่อปี 2016 ระบุว่าอายุเฉลี่ยของเจ้าของกิจการสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 59.2 ปี ขณะที่อายุเฉลี่ยของปี 1990 อยู่ที่ 54 ปี และ 2 ใน 3 ไม่มีผู้สืบทอดกิจการ โดยอัตราส่วนนี้เป็นกราฟขาขึ้น

กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเผยว่า เมื่อปี 2015 ผู้บริหารกิจการขนาดเล็กและขนาดกลางส่วนใหญ่อายุระหว่าง 65-69 ปี และจะเกษียณที่อายุเฉลี่ย 70 ปี และในปี 2025 ราว 2.45 ล้านคน หรือคิดเป็น 60% จะอยู่ในวัยเกษียณ ราว 1.27 ล้านคน หรือราวครึ่งหนึ่งของเจ้าของกิจการที่กำลังจะเกษียณเผยในผลสำรวจกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมว่า ยังไม่ได้แต่งตั้งผู้สืบทอดกิจการ และราว 70% ของเจ้าของกิจการที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปเผยว่า กิจการจะต้องปิดตัวลงหลังจากพวกเขาเกษียณแล้ว

หากปล่อยไว้แบบนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมคาดว่า การปิดกิจการเพราะไม่มีคนรับไม้ต่อจะกระทบต่อตำแหน่งงาน 6.5 ล้านตำแหน่ง และมูลค่าจีดีพีหายไปราว 194,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ประเทศไทยของเราก็กำลังก้าวเข้าสังคมผู้สูงวัย หากรัฐบาลไม่เตรียมตัวรับมือแต่เนิ่นๆ เราอาจเผชิญปัญหากิจการเก่าแก่ค่อยๆ ล้มหายตายจากไปก็เป็นได้

 

ภาพ: Wikimedia

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Japanese_Man-Elderly.JPG