ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต เผยกรณี “นิ่ม”  เป็นอุทาหรณ์ท้องไม่พร้อม ทั้งฝ่ายพ่อและแม่ เป็นปัญหาทั้งระบบ หน่วยงานเกี่ยวข้อง สธ.และพม.ต้องร่วมกันดูแล คาดเป็นตัวอย่างบทเรียนวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อม หนำซ้ำหลุดออกนอกระบบการศึกษา ทำให้ไม่รู้สิทธิ์ สวัสดิการ ไม่ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมตาม พ.ร.บ.ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ส่วนมองว่าเป็น “ไซโคพาธ”  เป็นบุคคลิคต่อต้านสังคมหรือไม่  ส่วนใหญ่ใช้กับผู้ก่ออาชญากรรมโชก โชน ไม่ละเว้นการรับโทษ

 

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมมารวย การ์เด้น นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีน.ส.นิ่ม อายุ 17 ปี ที่สารภาพทำน้องต่อ ลูกชายอายุ 8 เดือน เสียชีวิต ว่า นี่เป็นอุทาหรณ์ของเรื่องการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น การท้องไม่พร้อมทั้งฝ่ายพ่อ และฝ่ายแม่ ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพจิตสำคัญ และเป็นปัญหาทั้งระบบ ที่กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ต้องร่วมดูแล กรณีดังกล่าวพบว่าเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษา ซึ่งปกติจะมีพ.ร.บ.ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 และกฎหมายยุติการตั้งครรภ์ ดังนั้นหากเด็กยังอยู่ในระบบการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการจะต้องเข้ามาดูแล ให้คำปรึกษาตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์ การฝากครรภ์ และการดูแลหลังคลอดด้วย ยังไม่นับรวมถึงปัญหาครอบครัวที่อาจจะมีอยู่เดิม หรือปัญหาที่กำลังจะตามมาอีกด้วย 

 

นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการพูดต่อๆ กันว่า ผู้ก่อเหตุเป็นไซโคพาธนั้น อยากให้สังคมเข้าใจว่า ไซโคพาธเป็นเรื่องบุคลิกภาพต่อต้านสังคม มักใช้ในกลุ่มที่มีประวัติอาชญากรรมโชกโชน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน หากมีภาวะนี้โดยแท้จริง จะไม่ได้รับการยกเว้นโทษ ยกเว้นว่ามีปัญหาจิตฟั่นเฟือน หรือมีจิตบกพร่องถึงจะได้รับข้อยกเว้น อย่างไรก็ตาม การดูแลเด็ก เยาวชนที่กระทำผิดนั้น ตามกฎหมายจะเน้นเรื่องการฟื้นฟูเยียวยา มากกว่าการลงโทษ และมุ่งให้เกิดการพัฒนาตนเอง สภาพจิตใจ ให้สามารถกลับมาอยู่ในสังคมได้ ดังนั้น บทลงโทษจึงให้ไปอยู่ที่สถานพินิจ

 

นพ.ยงยุทธ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อสงสัยเรื่องปัญหาซึมเศร้าหลังคลอดที่อาจจะเกิดกับแม่ทุกคนนั้น ความรุนแรงพบได้ประมาณ 10-20 % แต่ตัวแปรสำคัญคือ ภาวะดังกล่าวเป็นผลกระทบจากการตั้งครรภ์ที่ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง เป็นการซึมเศร้าเฉพาะตน ทำให้ตำหนิตนเอง และทำร้ายตัวเอง ส่วนการทำร้ายคนอื่นนั้นเกิดขึ้นน้อยมาก อย่างไรก็ตาม กรณีน.ส.นิ่มนั้นอาจจะไม่รู้ว่ามีสวัสดิการช่วยเหลือกรณีท้องไม่พร้อมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการยุติการตั้งครรภ์ตามกฎหมาย หรือหากประสงค์จะตั้งครรภ์ต่อ ก็จะมีระบบดูแลต่อ มีหน่วยงานเข้าไปดูแล รวมถึงมีเงินสวัสดิการสำหรับเด็กแรกคลอกเดือนละ 600 บาท เป็นเงินเบื้องต้นเท่านั้น นอกจากนี้ จะมีการอบรมอาชีพเพื่อให้ดูแลตัวเองได้ระยะยาว ซึ่งเป็นบทบาทของกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับ พม. ดังนั้น สิ่งสำคัญคือความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการดูแลปัญหาการท้องไม่พร้อม

 

ข่าวเกี่ยวข้อง : หมอสูติฯ ชี้กรณี “นิ่ม” ตัวอย่างแม่วัยใสท้องไม่พร้อม ปัญหาสังคมเรื่องใหญ่

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org