ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดสธ.เตรียมหารือเลขาธิการ ก.พ.วันที่ 20 มิ.ย.นี้ ถึงการบรรจุข้าราชการปฏิบัติงานโควิดที่ตกค้างอีก 3 หมื่นกว่าคน พร้อมเสนอข้อเรียกร้องจาก 4 ชมรมสาธารณสุขในแต่ละวิชาชีพ ส่วนหมอลาออก มีหลายปัจจัย กรณีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ได้สั่งการทาง ผอ.รพ. ปรับระบบภายในให้เหมาะสม

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์และการลาออกจากราชการ ว่า ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้  ทางกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะมีการประชุมร่วมกันตามวาระสามัญ ที่ผ่านมาก็มีความร่วมมือกันโดยตลอด แต่ปัญหาเรื่องบุคลากรสาธารณสุขมีความซับซ้อน เพราะมีหลายแสนคน ครั้งนี้ก็จะมีการหารือถึงเรื่องการบรรจุข้าราชการที่ยังตกค้างอยู่ 3 หมื่นกว่าคน และเสนอข้อเรียกร้องจาก 4 ชมรมของกระทรวงสาธารณสุขที่มีการประชุมเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน เพื่อให้ ก.พ. รับทราบ เพราะแต่ละสาขาวิชาของกระทรวงฯ มีความสับสน อย่างเช่นหมอที่จบแล้วต้องมาเพิ่มพูนทักษะ หรืออินเทิร์น ต้องเรียนแพทย์เฉพาะทาง ส่วนพยาบาลก็ต้องเรียนสาขาเฉพาะ ดังนั้น ระเบียบต่างๆ ของ ก.พ. ก็อาจไม่สะดวก

 

“อย่างหมอจบมาเป็นอินเทิร์นทำงานในโรงพยาบาล ช่วงนั้นก็จะไม่มีขึ้นเงินเดือน ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ต้องมาหารือกัน แลกเปลี่ยนมุมมองกันว่าปัญหาเป็นแบบนี้ เรายะแก้ไขอย่างไร” นพ.โอภาส กล่าว

 

เมื่อถามว่ามีการข้อความเห็นจากผู้ปฏิบัติงานถึงปัญหาจริงๆ แล้วหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า แต่ละชมรมที่เข้ามาประชุมก็ได้รับเสียงสะท้อนมา อย่างบางคนก็ลาออกเพราะเรียนจบมาแล้วไม่ได้อยากเป็นหมอ ซึ่งเราก็บังคับไม่ได้เพราะแต่ละคนมีเหตุผลต่างกัน

 

เมื่อถามว่าได้หารือร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ถึงการเพิ่มสิทธิประโยชน์จนทำให้ภาระงานของ รพ. มาขึ้น นพ.โอภาส กล่าวว่า ต้องคุยกันทุกหน่วยงาน ทั้งภาระงาน ค่าตอบแทน สวัสดิการ ความก้าวหน้า และเรื่องส่วนตัว

 

“ส่วนใหญ่ที่มาเสนอความเห็น มีเพียงมุมเดียว พอแก้มุมหนึ่ง ก็จะเกิดปัญหาอีกมุมหนึ่ง เพื่อดูว่ามีปัญหาอะไรแล้วคนเดือดร้อนมากแค่ไหน เพราะถ้ากระทบคนกลุ่มน้อยมากๆ แล้วเราไปแก้ระบบใหญ่ ก็จะเกิดปัญหาตามมาได้ เราต้องคุยกันให้คนบถ้วนก่อน” นพ.โอภาส กล่าว

 

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ตนได้สั่งการทาง ผอ.รพ. ปรับระบบภายใน เพราะที่ผ่านมาก็มีปัญหามานาน ทุกคนก็ช่วยเหลือกันอย่างดี แต่การปรับเปลี่ยนก็ต้องใช้เวลา แต่ตนเชื่อว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ

 

“จากการตรวจเยี่ยม รพ. ก็พบว่าบุคลากรก็มีความสุขดี ก็ได้กำชับเรื่องการปรับระบบไป แต่ปัญหาต้องค่อยๆ แก้ ทั้งน้องใหม่ และพี่ที่อยู่เก่า ต้องปรับกัน” ปลัดสธ. กล่าว