ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) มุ่งพัฒนาหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ตามหลัก 3 อ. 2 ส. เผยผลประเมินความสำเร็จหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพประจำปี 2566 ระดับดีเยี่ยม 12,058 หมู่บ้าน ระดับดีมาก 6,110 หมู่บ้าน ระดับดี 20,511 หมู่บ้าน และระดับพัฒนา 19,205 หมู่บ้าน ให้ประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี สร้างหมู่บ้านเข้มแข็ง ลดการเจ็บป่วยและการเกิดโรค พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน 
 
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า ปี 2560-2564 พบประชาชนป่วยและเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมองเป็นจำนวนมาก โรคดังกล่าวเกิดจากการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง กรม สบส. โดยกองสุขศึกษา จึงได้นำแนวคิด กระบวนการสุขศึกษารูปแบบ “หมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ” ที่มุ่งเน้นให้ประชาชนในหมู่บ้านดำเนินกิจกรรมพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพและจัดการสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี ตามหลัก 3 อ. 2 ส. มาอย่างต่อเนื่อง คือ

  1. อาหาร
  2. ออกกำลังกาย
  3. อารมณ์
  4. ไม่สูบบุหรี่
  5. ไม่ดื่มสุราและแอลกอฮอล์

เพื่อให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชน ลดการเจ็บป่วย พร้อมยกระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพและการปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง และเกิดการร่วมมือกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมกันพัฒนาให้เกิดเป็นหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ดำเนินการโดยชุมชน ใช้ต้นทุนทางสังคม วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นฐานในการพัฒนาสุขภาพของชุมชน ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรค หรือไม่ก่อให้เกิดโรคก่อนวัยอันควร ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เกิดเป็นชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพ โดยในปี 2566 ผลประเมินความสำเร็จหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ จากจำนวน 75,086 หมู่บ้านทั่วประเทศ มีหมู่บ้านที่ผ่านการประเมิน รวม 57,884 หมู่บ้าน แบ่งเป็น 4 ระดับ ได้แก่

1) ระดับดีเยี่ยม จำนวน 12,058 หมู่บ้าน

2) ระดับดีมาก จำนวน 6,110 หมู่บ้าน

3) ระดับดี จำนวน 20,511 หมู่บ้าน

4) ระดับพัฒนา จำนวน 19,205 หมู่บ้าน  

“การสร้างสุขภาพที่ดี โดยยึดหลัก 3 อ. 2 ส. จะทำให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ลดการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และยังช่วยให้กลุ่มป่วยสามารถดูแลตนเองได้ เกิดเป็นหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ส่งผลต่อการมีสุขภาพดีถ้วนหน้าอย่างยั่งยืน” อธิบดีกรม สบส. กล่าว 

นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวเพิ่มเติมว่า หมู่บ้านปรับเปลี่ยนฯ จะต้องดำเนินงานเกณฑ์การประเมินกระบวนการพัฒนาหมู่บ้านฯ 7 ขั้นตอน ได้แก่

1.การสร้างและพัฒนาทีมแกนนำพัฒนาหมู่บ้านฯ

2.มีและใช้ข้อมูลพื้นฐานหมู่บ้านและพฤติกรรมสุขภาพ

3.เข้าใจปัญหาและวางแผนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ

4.จัดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ

5.เฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ

6.ประเมินผลการพัฒนา

7.ถอดบทเรียน ขยายผลต่อยอดสู่ความยั่งยืน

การประเมินผ่านโปรแกรม Health Gate ทางเว็บไซต์กองสุขศึกษา ซึ่งเป็นโปรแกรมการประเมินพัฒนาหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โรงเรียนส่งเสริมสุขบัญญัติแห่งชาติและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อยกระดับสู่การเป็นชุมชนรอบรู้ด้านสุขภาพและตำบลจัดการคุณภาพชีวิต ให้ประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพสุขภาพที่ดี สร้างชุมชนเข้มแข็ง ลดการเจ็บป่วยและการเกิดโรค พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org