ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค ให้ความมั่นใจฉีดวัคซีน HPV ปลอดภัย หลังทั่วโลกฉีดมาแล้วกว่า 15 ปี  เริ่มคิกออฟเข็มแรกนักเรียน “ป.5-ม.1-ม.3” 8 พ.ย.นี้  ส่วนกลุ่มสองอายุ 18-20ปี  ธ.ค.นี้ ฉีดที่รพ.หรือพื้นที่จังหวัดกำหนด ขอให้ติดตามประกาศของจังหวัดนั้นๆ  เตรียมสื่อสาร 3 อย่างสร้างความเข้าใจหลังรับวัคซีน 

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยอายุ 11-20 ปี จำนวน 1 ล้านโดส ภายใต้สโลแกน Woman Power No! Cancer “สวย เริด เชิด สู้มะเร็ง”  ซึ่งจะคิกออฟพร้อมกันในโรงเรียนทั่วประเทศในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ว่า  ปีนี้รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนถึงการให้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือเอชพีวี(HPV)แก่หญิงไทยอายุ 11-20 ปีจำนวน 1 ล้านโดส เป็นการฉีดวัคซีนแบบทั่วถึง ดังนั้น จะมีการฉีดวัคซีนให้อย่างน้อย 3 ชั้นปีที่ต้องได้รับเข็ม 1 ภายใน 100 วัน คือ ระดับชั้นประถม 5 มัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 2 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ส่วนประถมศึกษาปีที่ 6 ได้ไปก่อนเปิดเทอมแล้ว รวมๆจึงอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งทางกระทรวงฯ มีเพียงพอ โดยการฉีด 100 วันแรกจะทำให้เด็กได้รับภูมิคุ้มกันเร็วขึ้น

ฉีดเข็มแรกก่อน จากนั้นรัฐมีเข็ม2 รองรับอีกทีปีหน้า

“ขณะนี้เราให้ฉีดเข็มแรกก่อน โดยเข็ม 2 จากความคิดเห็นของคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันกำหนดให้ห่างจากเข็ม 1 ประมาณ 6-12 เดือน ซึ่งไม่ต้องฉีดเร็วมาก ยิ่งห่างยิ่งกระตุ้นได้ดี โดยทางเรามีการเตรียมวัคซีน HPV สำหรับเข็มที่ 2 แล้ว ซึ่งฉีดอีกครั้งก็จะประมาณช่วงเดือนตุลาคม หรือพฤศจิกายน 2567” นพ.โสภณ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีคนที่ฉีดวัคซีนเอชพีวีเข็มแรก แต่ยังไม่ได้เข็ม 2 จะเริ่มฉีดให้เมื่อไหร่ นพ.โสภณ กล่าวว่า จะได้เข็ม 2 ในช่วงปี 2567 เช่น เด็กม.3 ฉีดมาแล้วประมาณ 4-5 เดือน ช่วงต้นปี 67 ก็จะได้เข็มที่ 2 ซึ่งคนที่จะได้รับวัคซีนเข็มสอง ก็จะเป็นวัคซีนที่รัฐจัดให้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ประกาศว่า ให้หญิงไทยได้รับวัคซีนเอชพีวี 2 เข็ม ซึ่งทุกครั้งเราจะฉีดในช่วงป.5 แต่ตอนนั้นติดสถานการณ์โควิด ขณะนี้จึงมีการจัดซื้อเพื่อให้ได้วัคซีนครบ เพราะตอนนี้เขาจะอยู่ม.1กับม.2 อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกังวล สามารถฉีดวัคซีนได้ตามที่กำหนด

เมื่อถามถึงกรณีการฉีดวัคซีนในโรงเรียน จะฉีดทั้งรัฐและเอกชนหรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า ใช่ เพียงแต่มีข้อสังเกตว่า โรงเรียนเอกชน บางครั้งพ่อแม่จะพาไปฉีดก่อนแล้ว 

กลุ่มสอง 18-20ปี เริ่มฉีด ธ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวถามกรณีกลุ่มที่สอง อายุ 18-20 ปี จะเริ่มฉีดเมื่อไหร่ และมีการนัดหมายอย่างไร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กลุ่มนี้ตามแผนจะเริ่มฉีดเดือนธันวาคม 2566 เพื่อให้มีเวลาเก็บตกในโรงเรียนก่อน เนื่องจากเด็กนักเรียนจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มที่สอง จะจัดบริการฉีดวัคซีนเอชพีวีให้ที่โรงพยาบาล ตามที่จังหวัดนั้นๆ กำหนด และจะมีการประกาศในช่องทางของจังหวัดต่อไป ซึ่งจะเป็นลักษณะใดก็จะอยู่ที่จังหวัด อาจมีการนัดล่วงหน้า เป็นต้น จริงๆ อายุ 18-20 ปีบางส่วนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย หรือบางส่วนทำงานแล้วก็สามารถรับบริการที่โรงพยาบาล หรือจุดฉีดที่จังหวัดแจ้งให้ทราบ จะคล้ายๆกับการฉีดวัคซีนโควิด ตรงนี้ขอให้ติดตามประกาศของจังหวัดนั้นๆ

ถามต่อว่ากรมควบคุมโรค จะจัดฉีดวัคซีนเอชพีวีให้กลุ่มอายุ 18-20 ปีเดินทางมารับบริการที่สถาบันบำราศนราดูร ด้วยหรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า ต้องพิจารณาก่อนว่า ใกล้ๆสถาบันบำราศนราดูร มีสถานพยาบาลอื่นๆเปิดหรือไม่ในจ.นนทบุรี ต้องดูความต้องการ ซึ่งจะมีการหารือเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ส่วนกรุงเทพมหานคร ยังใช้กลไกเดิม เนื่องจากมีศูนย์บริการสาธารณสุข ก็จะจัดทีมไปฉีดให้ที่โรงเรียน ส่วนรพ.สังกัดกทม.ก็เข้าร่วม ซึ่งทางกทม.จะมีการประกาศให้ทราบช่องทางเช่นกัน

ย้ำ! วัคซีนเอชพีวีปลอดภัยใช้กว่า 15ปีทั่วโลก

ผู้สื่อข่าวถามว่าการฉีดวัคซีนเอชพีวีจะมีผลข้างเคียงหรือไม่ นพ.โสภณ กล่าวว่า วัคซีนนี้ออกมาแล้วเกิน 15 ปี ใช้มาแล้วทั่วโลก ยุโรป สหรัฐอเมริกาใช้มานานแล้ว ฉีดรวมๆหลายประเทศก็หลายสิบล้านโดสแล้ว จึงค่อนข้างปลอดภัย เมื่อเทียบเคียงกับวัคซีนอื่นๆ ยกเว้นอาจมีเจ็บ หรือปวดบริเวณฉีด บางคนอาจมีไข้นิดหน่อย แต่โดยรวมถือว่าปลอดภัย และขึ้นทะเบียนกับอย. 100 กว่าประเทศ  ที่สำคัญขณะนี้ยังไม่พบผลข้างเคียงระยะยาว แต่อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนเอชพีวีเป็นไปตามความสมัครใจ ไม่ได้บังคับ ซึ่งหลังฉีดวัคซีนโดยทั่วไปเราจะให้พักดูอาการ


เมื่อถามว่าวัคซีนชนิดนี้มีกี่สายพันธุ์ นพ.โสภณ กล่าวว่า มีทั้ง 2 และ 4 สายพันธุ์ ซึ่งไม่ว่าสายพันธุ์ไหนครอบคลุมสายพันธุ์ 16 และ 18 ส่วนอีก 2 สายพันธุ์ที่เพิ่มมาป้องกันหูด คือสายพันธุ์ 6 และ 11 ดังนั้น สายพันธุ์? 16 และ 18 จึงป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่เกิดจากไวรัสเอชพีวีได้ 70%

เตรียมสื่อสารหวั่นเด็กเข้าใจผิดหลังรับวัคซีนHPV

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่หากรณรงค์ฉีดวัคซีนเอชพีวี จะทำให้เด็กเข้าใจผิดว่า ปลอดภัยไม่ป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ นพ.โสภณ กล่าวว่า ต้องเน้น 3 อย่างคู่กัน คือ 1.หลังจากฉีดวัคซีนเอชพีวีแล้ว ต้องป้องกันด้วยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธุ์ ซึ่งป้องกันได้ทั้งรับและแพร่เชื้อ 2. หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน เพราะเสี่ยงรับเชื้อจากหลายๆคนได้ และ3.เมื่อโตขึ้นอายุตั้งแต่ 30-60 ปี แนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เพราะวัคซีนไม่ได้ป้องกัน 100% 

8 พ.ย.นี้ คิกออฟฉีดวัคซีนHPV ทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นประธานในการรณรงค์ฉีดวัคซีนเอชพีวี ที่โรงเรียนไทรน้อย จ.นนทบุรี