ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สาธารณสุข เตรียมเปิดโครงการ “พาหมอไปหาประชาชน” 14 ม.ค. นำร่อง 4 อำเภอ 4 จังหวัดพร้อมกัน “อ.ลี้ ลำพูน-อ.สีคิ้ว โคราช-อ.ชัยบาดดาล ลพบุรี-เวียงสระ สุราษฎร์ธานี” ก่อนขยายครบ 72 พื้นที่ เป็นโครงการเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา   อีกหนึ่งนโยบายขยายบริการการแพทย์เฉพาะทางไปยังประชาชน ไม่ต้องรอคิวผ่าตัดรักษานาน 6 เดือนหรือ 1 ปี

 

เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี(รพ.เด็ก) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการพาหมอไปหาประชาชน ว่า  สำหรับโครงการนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอขอเป็นโครงการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ครบรอบ 72 พรรษา หากได้รับอนุญาตจะเป็นโครงการเทิดพระเกียรติฯ ตลอดปี 2567  

โดยจะจัดบริการ “พาหมอไปหาประชาชน”  รวมทั้งหมด 72 ครั้งใน 12 เขตสุขภาพ เขตละ 6 ครั้ง มีพื้นที่ดำเนินการชัดเจน เริ่มต้นในวันที่ 14 มกราคม 2567 เบื้องต้น 4 จังหวัดในแต่ละภาค ดังนี้ ภาคเหนือที่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ภาคอีสานที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ภาคกลางที่อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และภาคใต้ที่อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี  โดยจะเปิดพร้อมกันทั้ง 4 จังหวัดข้างต้น

ทั้งนี้ การพาหมอไปหาประชาชน ครั้งนี้มุ่งเน้นเป็นแพทย์เฉพาะทาง ไม่ใช่เป็นการตรวจโรคทั่วไป เพราะการตรวจทั่วไปเรามั่นใจว่า สถานพยาบาลในพื้นที่สามารถให้บริการได้อยู่แล้ว และบางจังหวัดก็เข้าโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวอยู่แล้ว ดังนั้น การรักษาโรคทั่วไปจึงไม่เน้นในโครงการนี้ แต่จะเน้นให้พื้นที่คัดเลือก หรือเตรียมผู้ป่วยที่มีปัญหาเฉพาะทาง เช่น โรคตา หรือต้องใส่ขาเทียม ซึ่งจะมีหลายกิจกรรมเพื่อนำแพทย์เฉพาะทางไปหาผู้ป่วยตามกลุ่มเป้าหมายตรงนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าเพราะอะไรถึงเลือก 4 จังหวัดดังกล่าว นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นการนำร่องเปิดตัวโครงการ แต่หลังจากนี้แต่ละเขตก็จะมีเวลาทำทั้งปี ทั้ง 72 ครั้งก็จะไปพิจารณาว่า แต่ละพื้นที่มีกลุ่มเป้าหมายที่ต้องรักษาเฉพาะทางอย่างไรบ้าง ซึ่งเราจะมีแพทย์เฉพาะทางและแพทยืในพื้นที่มารองรับ

“โครงการนี้เป็นการขยายบริการแพทย์เฉพาะทางไปยังประชาชนในพื้นที่ ไม่ต้องรอ ยกตัวอย่าง ต้อกระจก แทนที่จะต้องมารอแพทย์เพื่อผ่าตัด นัด 6 เดือนหรือ 1 ปี เมื่อเรามีกลุ่มเป้าหมาย เราก็ยกคณะแพทย์ไปผ่าตัดในพื้นที่ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ทันที” นพ.ชลน่าน กล่าว