ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมอนามัย ส่งทีม SEhRT ร่วมลงพื้นที่เฝ้าระวังความเสี่ยงการปนเปื้อนแคดเมียมในพื้นที่โดยรอบโกดังรีไซเคิล เขตบางซื่อ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่โดยรอบ หากมีการสัมผัสโดยการ กิน สูดดมผงหรือฝุ่นสารแคดเมียมเข้าสู่ร่างกาย ล่าสุดตรวจคุณภาพน้ำยังไม่พบแคดเมียม

เมื่อวันที่ 11 เมษายน นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา มีการตรวจพบกากแคดเมียมเพิ่มอีกจุดในบริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด ในพื้นที่ซอยเรียงปรีชา ถนนประชาราษฏร์ แขวงบางซี่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร กากแคดเมียมในถุงบิ๊กแบ็กจำนวน 98 ถุง น้ำหนักประมาณ 150 ตัน เบื้องต้นหน่วยงานในพื้นที่ได้มีการประกาศห้ามใช้พื้นที่โรงงานดังกล่าวแล้ว และจากการตรวจสอบพบว่าโรงงานแห่งนี้ ได้รับใบอนุญาตการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จากหน่วยงานส่วนท้องถิ่น แต่มีการลักลอบนำกากแคดเมียมมาเก็บไว้ในพื้นที่ของโรงงาน

ดังนั้น หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น จึงต้องมีการควบคุม กำกับ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เนื่องจากกากแคดเมียมดังกล่าวเป็นสารก่อมะเร็ง หากมีการจัดเก็บที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงหรือบริเวณโดยรอบโรงงานได้รับผลกระทบด้านสุขภาพอนามัยได้ โดยหากมีการสัมผัสโดยการกิน สูดดมผงหรือฝุ่นสารแคดเมียมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดการระคายเคืองจมูกลำคอ หายใจลำบาก เจ็บปวดบริเวณหน้าอกมีอาการไอ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง อ่อนเพลีย บางรายเกิดภาวะท้องร่วงรุนแรง และในระยะยาวหากสัมผัสเป็นเวลานานและมีความเข้มข้นสูงมีโอกาสภาวะเจ็บป่วยรุนแรงได้ 

นพ.อรรถพล กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย จึงเร่งส่งทีม SEhRT หรือทีมปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้ม ของกรมอนามัยและสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง ร่วมปฏิบัติการกับสำนักงานเขตบางซื่อ กรมควบคุมโรค และกรมควบคุมมลพิษ และศูนย์บริการสาธารณสุข 19 วงศ์สว่าง เพื่อทำการประเมินความเสี่ยงทั้งด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน พบว่าน้ำทิ้งจากโรงงานดังกล่าวถูกปล่อยเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร ทำให้ไม่มีการปนเปื้อนของสารแคดเมียมในแหล่งน้ำสาธารณะ

อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ทีม SEhRT ของสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง กรมอนามัย จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำใช้ของประชาชนโดยรอบโรงงาน และภายในโรงงานดังกล่าวผลยืนยันแล้วว่าไม่พบสารแคดเมียมในน้ำอุปโภค บริโภค จึงขอแจ้งให้ประชาชนมั่นใจในในการใช้น้ำได้อย่างปลอดภัย ไม่มีการปนเปื้อนสารแคดเมียม ทั้งนี้ ทีม SEhRT ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ได้มีการสื่อสารประชาชนให้มีความรู้เรื่องอันตรายจากการรับสัมผัสสารแคดเมียม และเข้าใจต่อสถานการณ์ พร้อมแจ้งให้ประชาชนดูแลตนเองและครอบครัวสามารถป้องกันตนเองจากความเสี่ยงสุขภาพ หากพบความผิดปกติทั้งสิ่งแวดล้อมโดยรอบและผลทางสุขภาพให้รับแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ทันที

ทั้งนี้ กรมอนามัย ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมกำหนดมาตรการในการเฝ้าระวังการลักลอบเก็บ ขน สะสมกากแคดเมียมในพื้นที่อย่างเคร่งครัด รวมทั้งควบคุม กำกับ และบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขกับสถานประกอบกิจการเสี่ยงในพื้นที่ โดยให้มีการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม สุขลักษณะและกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ไม่ให้สถานประกอบการเกี่ยวกับสารเคมีทุกชนิด มีการปล่อย หรือทำให้เกิดสารพิษออกไปยังชุมชนที่มีประชาชนโดยรอบ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงผลกระทบสุขภาพต่อไป พร้อมเน้นน้ำทุกพื้นที่ เร่งสื่อสารความเสี่ยงทางสุขภาพให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย มีความรู้ ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพและการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ดี