ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ช่วงหน้าร้อน หลายคนประสบปัญหาเหงื่อออกมาก จนเกิดกลิ่นตัว กลิ่นไม่พึงประสงค์ จะมีวิธีดับกลิ่นกายอย่างไร “โบท็อกซ์” รักแร้ เป็นอีกทางเลือกในการลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัวได้หรือไม่...แพทย์สถาบันโรคผิวหนังมีคำตอบ...

ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนระอุ! แน่นอนว่า หลายคนประสบปัญหาเหงื่อที่ออกมากกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ที่ไม่ใช่แค่เหงื่อออกมาก สร้างความไม่สบายตัวเท่านั้น ยังส่งผลต่อกลิ่นกายที่สร้างปัญหาเช่นกัน ประกอบกับกระแสโซเชียลมีเดียมีการแชร์วิธีระงับกลิ่น ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ หรือ Botulinum toxin type A ตามคลินิกเสริมความงาม ซึ่มีราคาที่สูง

จึงเกิดคำถามว่า ช่วยได้จริงหรือไม่ และหากช่วยได้ จะลดเหงื่อ ระงับกลิ่นได้นานแค่ไหน..

 

เรื่องนี้ พญ.ศศธร สิงห์ทอง นายแพทย์ชำนาญการ สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ให้ความรู้ถึงการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ ระงับกลิ่น ว่า สามารถช่วยได้จริง เนื่องจากเมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไป จะไปออกฤทธิ์ที่ต่อมเหงื่อบริเวณรักแร้ ซึ่งวิธีการฉีดจะแตกต่างจากบริเวณที่ฉีดลดริ้วรอย ถ้าฉีดลดริ้วรอยจะฉีดเข้ากล้ามเนื้อบนใบหน้า การฉีดเพื่อลดเหงื่อจะฉีดใต้ผิวหนังแทนบริเวณรักแร้  โดยใช้ปริมาณมากกว่าที่ใบหน้า   เช่น 50-150 ยูนิตต่อข้าง  อยู่ได้นานถึง 6 เดือนจนถึง 1 ปี ส่วนราคานั้นมีหลายระดับตามแต่ละยี่ห้อ

“การฉีดโบท็อกซ์จะเป็นอีกทางเลือก สำหรับคนที่มีเหงื่อค่อนข้างมาก เมื่อฉีดไปแล้วใช้เวลาประมาณ 1 เดือนก็จะลดเหงื่อได้ระดับหนึ่ง”พญ.ศศธร กล่าว

กลุ่มไหนควรฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ

เมื่อถามว่ามีกลุ่มไหนที่จำเป็นต้องฉีดโบท็อกซ์ในการลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว พญ.ศศธร กล่าวว่า การฉีดโบท็อกซ์รักแร้เป็นวิธีการรักษา สำหรับคนที่มีเหงื่อออกเยอะมากจริงๆ  อาจเป็นภาวะที่เรียกว่า  Primary hyperhidrosis    ซึ่งโบท็อกซ์เป็นอีกวิธีในการช่วยรักษาภาวะดังกล่าว แต่ในปัจจุบันมีการนำมาใช้ลดเหงื่อ เพราะอากาศร้อน เหงื่อออกเยอะ เมื่อเหงื่อมาก เชื้อแบคทีเรียต่างๆก็เจริญเติบโตได้ดี เป็นสาเหตของกลิ่นและหลายโรค   ดังนั้น ถ้าเหงื่อลด แบคทีเรียลด ก็จะช่วยลดกลิ่นลงได้ อย่างไรก็ตาม ในบางกลุ่มก็ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์ เช่น หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังดีที่สุด

เมื่อถามว่าอย่างคนที่ไปเลเซอร์กำจัดขน จะช่วยระงับกลิ่นได้ด้วยหรือไม่ พญ.ศศธร กล่าวว่า เลเซอร์ขน ก็จะกำจัดขน แต่ไม่ได้กำจัดต่อมเหงื่อต่างๆ เพียงแต่อาจช่วยลดเรื่องกลิ่นได้บ้าง เพราะแบคทีเรียที่หมักหมมบริเวณขนลดลง  แต่หากสามารถลดเหงื่อได้ ก็จะลดการเกิดกลิ่นได้มากกว่า

นอกจาก โบท็อกซ์ มีวิธีอื่นลดเหงื่อลดกลิ่น

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีวิธีในการลดเหงื่อลดกลิ่นตัวแทนการฉีดโบท็อกซ์หรือไม่ พญ.ศศธร กล่าวว่า สามารถใช้สารส้ม หรือสารลดเหงื่ออื่นๆ อย่างกลุ่มที่มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียม (Aluminum chloride) ซึ่งมีจำหน่ายทั่วไป

ถามต่อว่าหากแพ้สารในโรลออนระงับกลิ่น ทำให้ผิวแห้ง คัน ควรต้องฉีดโบท็อกซ์หรือไม่ พญ.ศศธร กล่าวว่า เป็นอีกทางเลือก เนื่องจากบางคนแพ้โรลออน ส่วนใหญ่อาจเกิดจากน้ำหอมในผลิตภัณฑ์  ซึ่งบางกรณีเหงื่อออกมาก และมีอาการระคายเคือง คัน อาจเข้าใจว่าแพ้เหงื่อ แท้จริงแล้วอาจแพ้น้ำหอมในสารระงับเหงื่อก็ได้ ทั้งนี้ หากมีอาการผื่นขึ้น แสบคัน  ขอให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุและรักษาได้เหมาะสม  เนื่องจากผื่นอาจไม่ใช่แค่ผื่นแพ้ หรือผื่นอักเสบทั่วไป แต่อาจติดเชื้ออื่นๆ เช่น เชื้อยีสต์ เป็นต้น