ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า สถานการณ์โรคพยาธิใบไม้ตับ มะเร็งท่อน้ำดี เป็นโรคที่พบได้สูงมากในภาคอีสาน เนื่องมาจากพฤติกรรมการบริโภคของประชาชน ที่นิยมรับประทานปลาน้ำจืด อาหารสุกๆ ดิบๆ โดยเมื่อติดเชื้อหรือพบพยาธิ ประชาชนมีพฤติกรรมที่สำคัญอีกอย่างคือ การกินยาถ่ายพยาธิ ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดพฤติกรรมการบริโภคผิดๆ คือ กินอาหาร สุกๆ ดิบๆ ต่อไป จนเกิดการติดเชื้อซ้ำซากและเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในที่สุด ซึ่งการแก้ปัญหามะเร็งท่อน้ำดี จำเป็นต้องแก้ที่พฤติกรรมการบริโภคเป็นสำคัญ เพราะพบว่าแต่ละปีมีผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดี 30,000 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตประมาณ 20,000 ราย และสามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้เพียงปีละ 200-300 ราย เพราะเครื่องมือและแพทย์ไม่เพียงพอ

"การกินยาถ่ายพยาธิ โดยคิดว่าจะไม่เป็นอะไรตามมา เมื่อติดพยาธิก็เป็นสิ่งที่ไม่ต้องกลัว เพราะมียาถ่ายพยาธิ ทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำๆ บ่อยๆ โดยที่ไม่ทราบว่าพฤติกรรมดังกล่าว เป็นสาเหตุการเกิดมะเร็งท่อน้ำดี อีกส่วนอาจเป็นเพราะระยะโรคใช้เวลาเป็น 10 ปี กว่าจะแสดงอาการ ทำให้ประชาชนไม่ตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกัน" รศ.ดร.กิตติชัยกล่าว

รศ.ดร.กิตติชัยกล่าวต่อว่า จากสภาพปัญหาที่พบมากในภาคอีสาน ทำให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการทำโครงการโรงเรียนปลอดพยาธิใบไม้ตับ โดยเข้าไปตรวจหาพยาธิใบไม้ตับ และเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค พบว่า สามารถสร้างโรงเรียนปลอดพยาธิใบไม้ตับได้ อัตราการติดเชื้อเป็น 0 ซึ่งจำเป็นต้องเร่งทำความเข้าใจประชาชนต่อไป

ทั้งนี้เพราะโรคดังกล่าวสามารถป้องกันได้ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ซึ่งโรคมะเร็งท่อน้ำดีนั้น ยังไม่มีวิธีการตรวจหาโรคในระยะเริ่มต้น ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด แต่ส่วนมากมักจะพบว่าผู้ป่วยเข้าสู่ระยะท้ายแล้วจึงพบโรค ทำให้การรักษาเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงเกิดอัตราการเสียชีวิตจำนวนมาก

ที่มา : นสพ.ข่าวสด วันที่ 1 ส.ค. 2555