ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

วงการสุราลือสรรพสามิตเตรียมออก พ.ร.ก.แก้ไขกฎหมายเหล้า หวังรื้อภาษีสุราทั้งยวง อ้างเหตุรองรับเออีซี พร้อมปรับวิธีคำนวณภาษีใหม่ พร้อมขยายเพดานภาษีไวน์-เบียร์ จาก 100 เป็น 2,000 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ ปิ๊งตั้งกองทุนเลียนแบบ สสส. อ้างเอาไว้ช่วยคนพิการ

แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เปิดเผยว่า มีกระแสข่าวว่ากรมสรรพสามิตจะมีการปรับแก้ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยการแก้ไขจะต้องทำอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ทันกับการรวมกลุ่มเออีซีในอีก 2 ปีข้างหน้า จึงจำเป็นต้องออกเป็น พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 เพื่อออกประกาศเป็นกฎกระทรวงแก้ไขในส่วนของการขยายเพดานภาษีสรรพสามิต คาดว่าจะเสนอเข้า ครม.ในเร็วๆ นี้

แหล่งข่าวกล่าวว่า รายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญ คือ จะมีการเปลี่ยนวิธีการคำนวณภาษีสรรพสามิตสุรา จากเดิมใช้การคำนวณ 2 แบบ ทั้งในเชิงมูลค่าและในเชิงปริมาณตามดีกรีแอลกอฮอล์ โดยเลือกวิธีที่จัดเก็บภาษีได้สูงสุด เปลี่ยนมาเป็นการจัดเก็บทั้ง 2 แบบ แต่จะมีการกำหนดสูตรที่เหมาะสมอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังได้เปลี่ยนวิธีการคำนวณต้นทุนภาษีสรรพสามิต ในเชิงมูลค่า จากเดิมสุราในประเทศให้ใช้ราคาต้นทุนหน้าโรงงานมาคำนวณภาษี ในขณะที่สินค้าสุรานำเข้าให้ใช้ราคาซีไอเอฟ (ราคาส่งมอบซึ่งคิดแต่เฉพาะค่าต้นทุนสินค้าบวกค่าขนส่ง ไม่คิดค่าประกันสินค้า) เปลี่ยนเป็นมาใช้ราคาขายปลีก หรือราคาขายส่งขั้นสุดท้าย มาใช้ในการคำนวณภาษีแทน

แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากนี้ จะมีการแก้ไขเพดานภาษีสุราแช่ ซึ่งประกอบด้วยไวน์ และเบียร์ ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บเต็มเพดาน ทั้งในเชิงมูลค่าและปริมาณ โดยจัดเก็บในอัตราร้อยละ 60 และ 100 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ เป็นการขยายเพดานสูงสุด 2,000 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์ ขณะที่สุรากลั่น ประเภทวิสกี้ บรั่นดี และสุราปรุงพิเศษ ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บเต็มเพดานที่ร้อยละ 50 ในเชิงมูลค่า และ 400 บาทต่อลิตร ให้ขยายเพดานสูงสุดที่ 2,000 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์เช่นเดียวกัน แต่อัตราจัดเก็บที่แท้จริง จะมีการกำหนดอีกครั้ง เนื่องจากการจัดเก็บจะทำทั้งในเชิงมูลค่าและปริมาณ

"นอกจากนี้ ในร่าง พ.ร.ก.ดังกล่าว จะยังมีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมและพัฒนาภารกิจกรมสรรพสามิต หรือใช้ชื่อย่อว่า กสพ. โดยมีรูปแบบและแหล่งที่มาของกองทุน คิดจากภาษีสรรพสามิตสุรา ร้อยละ 1.5-2 เป็น รูปแบบเดียวกับการจัดตั้งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุน เพื่อช่วยเหลือคนพิการ ส่งเสริมการศึกษา รวมทั้งใช้ดำเนินการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของกรมสรรพสามิต คาดว่าจะจัดเก็บเพื่อตั้งกองทุนได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่หากมีการคัดค้านจากเอกชน ก็จะหันไปใช้วิธีจัดเก็บเงินจากใบอนุญาตจำหน่ายสุรา เพื่อเป็นทุนเริ่มต้นในการตั้งกองทุน ดังกล่าวแทน" แหล่งข่าวกล่าว

ที่มา--มติชน ฉบับวันที่ 13 มิ.ย. 2556 (กรอบบ่าย)--