ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

น.ส.สาวิณี ชาญสินธพ ผู้วิจัยเรื่องสถานการณ์บุหรี่และทัศนคติเกี่ยวกับบุหรี่ เพื่อการขับเคลื่อนสู่จังหวัดปลอดบุหรี่ ในพื้นที่ จ.นราธิวาส เปิดเผยในการประชุมวิชาการบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 12 ว่า จากการสุ่มตัวอย่างเพื่อสำรวจสถานการณ์การสูบบุหรี่ใน จ.นราธิวาส 470 ราย ช่วงอายุ 15-50 ปี ระหว่างปี 2554-2555 พบว่า กลุ่มผู้สูบบุหรี่เป็นเพศชาย ถึงร้อยละ 57 โดยอัตราการสูบบุหรี่เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 9 มวน สำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่พบว่า ร้อยละ 50 มักสูบบุหรี่สถานที่สาธารณะ เช่น วัด มัสยิด สถานพยาบาล ตลาดสด และสถานบันเทิง เป็นต้น โดยเฉพาะสถานที่ห้ามสูบ เช่น ตลาดสด มีอัตราการสูบถึงร้อยละ 87.19 สถานพยาบาล ร้อยละ 72

น.ส.สาวิณีกล่าวว่า จากการวิจัยพบว่า กลุ่มผู้สูบบุหรี่รับทราบกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ แต่สาเหตุที่ยังสูบบุหรี่อยู่ จากการสัมภาษณ์เชิงลึก พบว่า ประชากรในพื้นที่ไม่ได้มีทัศนคติต่อการสูบบุหรี่ในแง่ลบ โดยร้อยละ 39 ระบุว่า สูบบุหรี่เพื่อต้องการความเพลิดเพลินในเวลาว่าง และเวลาพักผ่อนตามสวนสาธารณะ รองลงมาให้เหตุผลว่าเป็นการพบปะเพื่อนฝูง ปัญหาที่พบ คือ ประชากรส่วนมากยังมองบุหรี่เป็นสิ่งแก้เหงา คิดว่าเป็นเรื่องไม่ร้ายแรง แต่พอนำเสนอสถานการณ์พิษภัย ของควันบุหรี่มือสองมากขึ้น พบว่า คนนราธิวาสเริ่มมองเห็นอันตรายของคนรอบข้างมากกว่าสุขภาพของตนเองด้วย

น.ส.สาวิณีกล่าวว่า ผลวิจัยเชื่อว่าในอนาคต จ.นราธิวาส จะสามารถพัฒนาให้มีพื้นที่ปลอดบุหรี่ได้มากขึ้น ทั้งนี้ อาสาสมัครสาธารณสุขยังมีการจัดกิจกรรมเพื่ออบรมเกี่ยวกับภัยบุหรี่ต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2554 และรณรงค์เลิกสูบบุหรี่ในสถานพยาบาลและศาสนสถาน พบว่า ผู้ที่เคยสูบในสถานที่เหล่านี้ ร้อยละ 84 เริ่มลดปริมาณการสูบน้อยลง เนื่องจากเกรงใจผู้ไม่สูบบุหรี่ที่จะได้รับควันมือสอง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรณรงค์ให้สถานพยาบาล สถานศึกษา วัดและมัสยิด เป็นเขตปลอดบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์

ที่มา--ข่าวสด ฉบับวันที่ 23 ก.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--

เรื่องที่เกี่ยวข้อง