ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายหน่วยบริการสุขภาพ 17 จังหวัดภาคเหนือ  จัดประชุมวิชาการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “คุณภาพเครือข่ายบริการภาคเหนือ” พัฒนามาตรฐานหน่วยบริการ  เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการส่งต่อ – รับกลับผู้ป่วย  6 กลุ่มโรคร้ายแรง

เมื่อวันที่ 26-27 สิงหาคม 2556  ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ  โรงแรมดิเอ็มเพรส  อ.เมือง จ.เชียงใหม่  ได้มีการจัดงานประชุมวิชาการและเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “คุณภาพเครือข่ายบริการภาคเหนือ ครั้งที่ 1”  โดยความร่วมมือของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 3 เขตภาคเหนือ (เขต ๑ เชียงใหม่   เขต ๒ พิษณุโลกและเขต ๓ นครสวรรค์)  ร่วมกับเครือข่ายหน่วยบริการผู้ป่วยกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูง 17 จังหวัดภาคเหนือ  มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 800 คน 

ภายในงานมีการจัดเวทีเสวนาเรื่องนโยบายการพัฒนาศักยภาพและการจัดบริการแบบพวงบริการ(service plan)  ของกระทรวงสาธารณสุขและความเชื่อมโยงกับคุณภาพเครือข่ายบริการผู้ป่วยกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูง   โดย พญ.จิรวรรณ   อารยะพงษ์   จากสำนักบริหารการสาธารณสุข  กระทรวงสาธารณสุข  และ นพ.พีรพล   สุทธิวิเศษศักดิ์  รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  มีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานเด่น  เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้(KM)การพัฒนาเครือข่ายบริการและการบรรยายวิชาการ 6 เครือข่ายบริการ

นายแพทย์วรชัย  อึ้งอภินันท์  รองผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต ๑ เชียงใหม่  กล่าวว่า  ระบบการรับส่งต่อและรับกลับถือเป็นเรื่องสำคัญในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูง  เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาในหน่วยบริการที่มีศักยภาพสูงกว่าและรับกลับไปยังหน่วยบริการใกล้บ้านเพื่อให้ได้รับการดูแลที่ต่อเนื่อง  สปสช.จึงได้มีนโยบายในการพัฒนาระบบเครือข่ายบริการกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูง 6 เครือข่าย  มาตั้งแต่ปี 2552  ได้แก่ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด(Stroke)  โรคหลอดเลือดสมอง(STEMI)  กลุ่มโรคมะเร็ง(Cancer)  บริการทารกแรกเกิดน้ำน้อย(New born)  เครือข่ายบริการจิตเวช(Psychosis)  เครือข่ายการดูแลแบบประคับประคอง(Palliative care)

จากผลการดำเนินการที่ผ่านมาพบว่าแต่ละเครือข่ายมีการพัฒนากระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่องและเกิดผลลัพธ์ที่ดี  บางเครือข่ายมีการเผยแพร่ขยายผลสู่หน่วยงานภายนอก  การจัดประชุมวิชาการและเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้    เพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูง  เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่ายทำให้เพิ่มศักยภาพให้เกิดการพัฒนาที่ยั้งยืน  และยังเป็นการยกยกให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานและหน่วยบริการในเครือข่าย

นายแพทย์พีรพล  สุทธิวิเศษศักดิ์  รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  กล่าวว่า  นโยบายในการพัฒนาเครือข่ายบริการ  ผู้ป่วยโรคที่มีอัตราตายสูงเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2552 โดยเริ่มต้นใน 4 โรค  ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด  โรคมะเร็ง  โรคหลอดเลือดสมองและบริการทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย  ต่อมาในปี 2553 จึงพัฒนาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจิตเวช  เครือข่ายการดูแลแบบประคับประคองและเครือข่ายบริการบาดเจ็บที่ศรีษะ  เพิ่มเติมเข้ามาอีก 

ทั้งนี้ภายหลังการจัดตั้งเครือข่ายพบว่ามีการพัฒนาระบบส่งต่อ-ส่งกลับ  ที่มีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง  ผู้ป่วยได้รับบริการที่มีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐาน  อัตราการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยมากขึ้นและอัตราการป่วยตายน้อยลง  เช่น

1.อัตราการได้รับยาละลายลิ่มเลือดในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันเพิ่มขึ้นจาก 27.67%  ในเดือนตุลาคม 2552 เป็น  61.68% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2556

2.อัตราการได้รับเคมีบำบัดโดยผุ้ป่วยมะเร็งโดยหน่วยบริการในจังหวัด  เพิ่มขึ้นจาก 55.71%  ในปี 2554 เป็น  61.32% ในปี 2555

3.อัตราการได้รับยาละลายลิ่มเลือดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน  เพิ่มขึ้นจาก 0.18% ในปี 2552  เป็น 2.67% ในปี 2556

4.อัตราทารกแรกเกิดน้ำหนัก 1,500 – 2,499 กรัม เสียชีวิตภายใน 28 วัน  ลดลงจาก 1.11% ในปี 2554 เป็น 1.02% ในปี 2556

5.จำนวนการเข้าถึงยามอร์ฟีนเพื่อบรรเทาอาการที่บ้านของผู้ป่วยระยะสุดท้าย(paliatine care) จากเดิมในปี 2555 มีผู้เข้าถึงบริการ 5,305 ราย  ขณะที่เพียงครึ่งปีของปี 2556 มีผุ้เข้าถึงบริการแล้ว 4,846 ราย

เรื่องที่เกี่ยวข้อง