ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

บำรุงราษฎร์วางยุทธศาสตร์เจาะทุกภูมิภาค นำร่องซื้อพิษณุเวช ดูแล ลูกค้าระดับบนในภาคเหนือตอนล่าง เดินหน้าโครงการซอย 1 สร้างศูนย์ตรวจฟื้นฟูสุขภาพ ส่วนโครงการถนนเพชรบุรีเลื่อนลงทุนออกไป ชี้รอเศรษฐกิจนิ่ง ด้านการลงทุนต่างประเทศอยู่ระหว่างเจรจาโรงพยาบาลมองโกเลีย ปีหน้าเห็นความชัดเจน

น.พ.สิน อนุราษฎร์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์กลุ่มโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า บริษัทหันมาโฟกัสการลงทุนในประเทศอย่างจริงจังมากขึ้น จากเดิมเน้นลงทุนต่างประเทศเป็นหลัก ล่าสุดได้เข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลเอกชน ภายใต้ชื่อโรงพยาบาลพิษณุเวช จังหวัดพิษณุโลก โดยบริษัทถือหุ้นเป็นสัดส่วน 51% เบื้องต้น จะร่วมกันบริหาร ถือเป็นครั้งแรกที่มีการขยายการลงทุนไปยังต่างจังหวัด วางตำแหน่งเป็นโรงพยาบาลดูแลลูกค้าระดับบนในเขตภาคเหนือ เพราะบำรุงราษฎร์มีความถนัดในตลาดดังกล่าว

สำหรับแผนการลงทุนจากนี้ อยู่ระหว่างศึกษาหลาย ๆ แห่ง โดยสนใจโรงพยาบาลระดับตติยภูมิที่มีความเชี่ยวชาญหลาย ๆ ด้าน ซึ่งถ้ามีโอกาสที่ดีก็สนใจจะร่วมลงทุน โดยมองว่าจากนี้ยังมีโอกาสอีกมาก สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การลงทุนของโรงพยาบาลที่ต้องการขยายการลงทุนในทุกภูมิภาค อย่างที่พิษณุโลก เพื่อดูแลผู้ใช้บริการเขตภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งยังมีโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ ซึ่งเป็นของ โรงพยาบาลเอกชนมีเพียงไม่กี่แห่ง

สำหรับโครงการบนถนนเพชรบุรี ที่มีแผนทำเป็นศูนย์แม่และเด็ก จะเริ่มสร้างอีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยเลื่อนจากแผนเดิมที่จะสร้างในปีนี้ เพราะต้องการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจให้นิ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการในสุขุมวิทซอย 1 อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2557 เพื่อเปิดเป็นศูนย์ตรวจสุขภาพ เวชศาสตร์ฟื้นฟู

ทั้งนี้ในส่วนของการปรับปรุงพื้นที่ให้บริการภายในโรงพยาบาล อยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มเตียงอีก 80 เตียง จากที่มีกว่า 400 ห้อง โดยตามแผนจะรีโนเวตเสร็จในช่วงต้นปี 2557

ส่วนด้านบริการเตรียมเปิดศูนย์ตา ที่มีการเพิ่มพื้นที่ให้บริการ บุคลากรฟูลไทม์ จากเดิมเป็นพาร์ตไทม์ และเครื่องมือแพทย์ และห้องตรวจจาก 6 ห้องเป็น 18 ห้อง

น.พ.สินกล่าวว่า ในส่วนแผนเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลในมองโกเลีย อยู่ระหว่างเจรจา คาดว่าจะเห็นความชัดเจนต้นปี 2557 สำหรับมองโกเลียเป็นประเทศที่มีประชากร 3 ล้านคน แบ่งเป็นประชากรอาศัยในเมืองหลวง 1.5 ล้านคน ซึ่ง โรงพยาบาลที่สนใจนั้นตั้งอยู่ในเขตเมืองหลวง ปัจจุบันบำรุงราษฎร์มีผู้ป่วยชาวมองโกเลียอยู่พอสมควร มองโอกาสในแง่การส่งต่อและให้บริการในท้องถิ่น

"ยกตัวอย่างเวียดนาม มีคลินิกของตัวแทนของเราที่ส่งต่อคนไข้เข้ามา ส่วนลาวและกัมพูชายังดูอยู่ โจทย์หลักคือบุคลากร ซึ่งทุกคนคาดหวังจะได้รับบริการที่มีมาตรฐานเดียวกับที่บำรุงราษฎร์"

สำหรับสภาพเศรษฐกิจจะชะลอตัว ทำให้ลูกค้าคนไทยระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ขณะที่ลูกค้าต่างประเทศยังเข้ามาใช้บริการตามปกติ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบโดยรวมของบำรุงราษฎร์ ซึ่ง ตั้งเป้าเติบโต 10% ทุกปี ทั้งนี้ รายได้ไตรมาส 2 ยังเป็นไปตามเป้าหมาย

ด้านนายแอนโทนี จู๊ด ตัน ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวทัลไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในกลุ่มโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ปัจจุบันเปิดให้บริการเข้าสู่ปีที่ 13 มีลูกค้า 4,000 คนต่อปี ล่าสุดได้เปิดให้บริการการดูแลสุขภาพแบบ องค์รวมเฉพาะบุคคลรูปแบบใหม่ หรือ ฟิวเจอร์เฮลท์ เป็นแผนเชิงรุกระยะยาวในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม นอกจากนี้ ยังมีแผนรีโนเวตอาคารให้บริการซึ่งมีทั้งหมด 8 ชั้น โดยไวทัลไลฟ์ให้บริการที่ชั้น 1, 2, 6 และ 8 และในปี 2557 จะให้บริการครบทุกชั้นเพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

"ลูกค้าส่วนใหญ่ยังเป็นชาวต่างประเทศ แต่ลูกค้าคนไทยเริ่มเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของคนที่เจ็บป่วยและเข้ามารักษา อีกส่วนเป็นคนที่เข้ามาตรวจป้องกัน ทิศทางปีหน้าจะขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทั้งในยุโรปและกลุ่ม ยูเออี เข้าไปตั้งสำนักงานในต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้มีอยู่หลายแห่ง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 6,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีรายได้ 6,329 ล้านบาท มาจากจำนวนผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น ทั้งในกลุ่มผู้ป่วยคนไทยและต่างประเทศ สำหรับผู้ป่วยนอกมีรายได้จากกลุ่มโรคที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยปัจจุบันมีรายได้จาก ผู้ป่วยต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 61.6% คนไทย 38.4% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 37.9% ในครึ่งปีแรก

ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 5 - 8 ก.ย. 2556--