ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายแพทย์ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสปสช. เปิดเผยว่า นโยบายของสปสช.ที่ให้ผู้เสพเข้าถึงเมทาโดนเพื่อจะมาแทนที่เฮโรอีนให้ทั่วทั้งประเทศเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยตั้งเป้าให้โรงพยาบางส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)  เข้ามาเป็นเครือข่ายบริการของรพ.ทุกแห่งในพื้นที่  ทั้งนี้  สปสช.มีนโยบายที่จะทำให้คนเข้าถึงยาเมทาโดน ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของฝิ่นที่มีผลต่อสุขภาพน้อยกว่ามาแทนที่การเสพติดเฮโรอีน เพราะสถานการณ์ทางการแพทย์ยอมรับว่า ผู้ติดยาโดยเฉพาะเฮโรอีนเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังต้องการได้รับการบำบัดสปสช.ได้ให้สิทธิประโยชน์กับผู้ป่วยเหล่านี้มาตั้งแต่ปี 2551 ในการเข้าถึงยาเมทาโดน แต่ระบบริการยังมีไม่มาก ประมาณการณ์ว่าขณะนี้ทั้งประเทศมีผู้เสพติดยาเสพติดเฮโรอีนใช้ในการฉีดยา ประมาณ 40,000-50,000 ราย หรือมีผู้เข้าถึงเมทาโดน 3,000-4,000 รายเท่านั้น หรือมีผู้เข้าถึงเพียง 10% เนื่องจากมีรพ.ที่ให้บริการได้กว่า100 แห่งจากทั้งหมดของภาครัฐที่มีกว่า 1,000 แห่ง

ดังนั้น สปสช. จึงมีนโยบายขยายการบริการใหเข้าถึงเมทาโดนเพื่อมาแทนที่บำบัดรักษาเฮโรอีนให้ทั่วถึงทั้งประเทศ  โดยให้โรงพยาบาลชุมชนเป็นหน่วยดูแลให้ครอบคุลมในเบื้องต้น และมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) เป็นเครือข่ายในพื้นที่ในรูปแบบของศูนย์โอโซน ภายใต้มูลนิธิ PSI ที่เน้นทำงานในชุมชน โดยจัดรูปแบบทำงานกับชุมชน ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายที่ติดยาเสพติดสามารถเข้าถึงบริการได้ดี และให้การดูแลรักษาต่อเนื่อง ส่งผลคุณภาพชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

นายแพทย์สรกิจ ภาคีชีพ  แผนงานสนับสนุนระบบบริการเอดส์และยาเสพติด สำนักสนับสนุนเครือข่ายระบบบริการทุติยภูมิและตติยภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เคยติดยาเสพติดใช้รูปแบบที่ศูนย์โอโซนดำเนินการส่งผลให้ ผู้ติดยาเสพติดได้อยู่ใกล้ชิดครอบครัวและทำงานได้ใกล้บ้านเพื่อที่จะดูแลครอบครัว  โดยที่สปสช.จะนำรูปแบบนี้ไปใช้และขยายบริการให้เข้าถึงประชาชน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการ ซึ่งในเบื้องต้นจะขยายการบริการในโรงพยาบาชุมชน(รพช.) และเครือข่ายรพ.สต.เป็นฐานในการดำเนินการดูแลกลุ่มนี้ คาดว่าภายใน 3 ปีจะเห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้นอย่างไรก็ตาม จะต้องดำเนินการร่วมกับกระทรวงสาธารรสุขและหน่วยงานภาคเอก เพื่อจะขยายการบริการได้ทั่วถึงและตรงกลุ่มเป้าหมายได้