ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สยามรัฐ - นายวัลลภ พริ้งพงษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ดำเนินการแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลของพนักงานส่วนท้องถิ่นพ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้พนักงานและลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 พ.ศ. ...โดยได้ยกร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินทุนสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ... มีหลักการสำคัญคือ จัดตั้งเงินทุนสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล และจัดให้มีการเบิกจ่ายเงินเป็นระบบจ่ายตรง ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้เห็นชอบในหลักการของร่างระเบียบดังกล่าวแล้ว และส่งให้คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยตรวจพิจารณาร่างระเบียบ และนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พิจารณาลงนามในระเบียบต่อไป

"ทั้งนี้ ในร่างระเบียบได้กำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2557 โดยรายการเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อการรักษาพยาบาลของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ได้รับงบประมาณ เป็นเงินอุดหนุนทั่วไป จำนวน4,061.95 ล้านบาท และคณะกรรมการการกระจายอำนาจฯได้มีมติเห็นชอบให้กันเงินสำรอง ไว้สำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นจากเงินอุดหนุนทั่วไป (ตามอำนาจหน้าที่) อีกจำนวน 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะได้ดำเนินการจัดทำเป็น ประกาศหลักเกณฑ์การจัดสรรในลำดับต่อไป" นายวัลลภ กล่าวและว่า

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช.) ได้แต่งตั้งนายทะเบียนประจำอปท.และมีการบันทึกข้อมูลผู้มีสิทธิเข้าสู่โปรแกรมระบบทะเบียนบุคลากร อปท. ทั้งนี้ยังมีผู้มีสิทธิที่ อปท.ยังไม่ได้บันทึกข้อมูลอีกหลายแห่งหรือยังบันทึกไม่ครบถ้วน ดังนั้นจึงขอให้อปท.ทุกแห่งดำเนินการเร่งรัดบันทึกข้อมูลผู้มีสิทธิตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2541ลงในโปรแกรมระบบทะเบียนบุคลากรอปท.ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อจะสามารถสมัครทำเบิกจ่ายตรง และใช้สิทธิการรักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรงกับสถานพยาบาลต่างๆ ได้

ด้าน นายศุภสัณห์ หนูสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลาเปิดเผยว่า เงินกองทุนสวัสดิการฯยอดแรก7,000 ล้านบาท กรมส่งเสริมฯได้โอนเข้ากองทุนงวดแรก 4,000 ล้านบาท และเหลืออีก 3,000 ล้านบาท จะจัดเข้ากองทุนฯในปีงบประมาณ 2557 โดยไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน ขอให้พนักงาน ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ อปท.ไปสแกนนิ้วมือกับสถานพยาบาลที่ใช้บริการที่สะดวก ในส่วนของ สปสช.คิดค่าจัดการและดำเนินการร้อยละ 1.5 คาดว่ากองทุนสวัสดิการฯทำให้ข้าราชการ พนักงานและลูกจ้างประจำ อปท.หลายแสนคนมีขวัญและกำลังใจเพิ่มขึ้น การทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ  วันที่ 15 ตุลาคม 2556