ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ข่าวหุ้น - ทริสเรทติ้ง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ที่ระดับ A ด้วยแนวโน้ม Stableหรือคงที่ โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนของไทย ตลอดจนตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourist Segment) และกระแสเงินสดของบริษัทที่มีความสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการแข่งขันทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงข้อจำกัดจากการมีโรงพยาบาลหลักเพียงแห่งเดียว และความเสี่ยงที่อาจเกิดจากโครงการลงทุนในอนาคตของบริษัท ขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายที่บริษัทจะสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในประเทศเอาไว้ได้และคงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อไป

โดยบริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่มั่นคงและมีภาระหนี้ในระดับปานกลาง ซึ่งช่วยให้บริษัทมีความคล่องตัวในช่วงที่มีการลงทุนและขยายธุรกิจ อย่างไรก็ตาม บริษัทควรดำรงอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนไม่ให้สูงเกินกว่า 50% เพื่อรักษาคุณภาพเครดิตเอาไว้

สำหรับบริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ดำเนินกิจการโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล โรงพยาบาลจัดเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศและในภูมิภาคเอเชีย โดยโรงพยาบาลมีความสามารถในการให้บริการผู้ป่วยนอกจำนวน 5,500 คนต่อวัน

อีกทั้งมีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยในทั้งหมด 538 เตียง สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทสะท้อนถึงชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักและผลงานทางการแพทย์ที่เป็นที่ยอมรับมานานกว่า 30 ปี บริษัทเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีรายได้สูงโดยใช้กลยุทธ์สร้างความแตกต่างด้านบริการและคุณภาพ

โดยบริษัทมีรายได้รวมในปี 2555 อยู่ที่ 12,856 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยที่ชำระเงินเองคิดเป็นประมาณ 70% ของรายได้รวม และบริษัทมีรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างประเทศประมาณ 60% ของรายได้รวม ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทในตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสะท้อนจากเครือข่ายที่แข็งแกร่งในต่างประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทมีสัดส่วนผู้ป่วยที่มาจากตะวันออกกลางสูงสุดจากจำนวนผู้ป่วยชาวต่างชาติทั้งหมด ทั้งนี้ การรับผู้ป่วยชาวต่างชาติช่วยให้บริษัทมีแหล่งรายได้ที่หลากหลาย รวมทั้งช่วยลดการพึ่งพาผู้ป่วยในประเทศ และลดแรงกดดันจากการแข่งขันในตลาดบริการสุขภาพภายในประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในช่วงของการขยายธุรกิจ โดยยังคงเน้นตลาดบริการสุขภาพระดับบน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทซื้อที่ดิน 2 แปลงบนถนนเพชรบุรีและถนนสุขุมวิท ซอย 1 โดยมีแผนจะก่อสร้างโรงพยาบาลขนาด 200 เตียงบนที่ดินที่ถนนเพชรบุรี ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2560 ส่วนที่ดินอีกแปลงบนถนนสุขุมวิท ซอย 1 จะถูกพัฒนาเพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลหลักเนื่องจากมีทำเลอยู่ใกล้กัน

สำหรับมูลค่าลงทุนทั้ง 2 โครงการจะรวมอยู่ 9,800 ล้านบาทซึ่งไม่รวมราคาที่ดิน ด้วยปริมาณเงินสดในมือและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัท ทริสเรทติ้งเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท

โดยบริษัทได้รับการคาดหมายว่า จะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทริสเรทติ้งคาดรายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างน้อย 5-8% ต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า อัตราส่วนกำไรของบริษัทจะยังมั่นคงและอยู่ในระดับเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 23% ในระยะดังกล่าว ด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง คาดว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ระหว่าง 2.5-3 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 3 ปีข้างหน้า

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556