ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.สรุปตัวเลขผู้บาดเจ็บจากเหตุชุมนุมวันนี้ มี 7 ราย จากแก๊สน้ำตา ยืนยันการจัดระบบการดูแลผู้ชุมนุมทั้งการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและการดูแลสุขภาพประชาชนในการชุมนุม ศูนย์เอราวัณ กทม. เป็นแกนหลัก ในการประสานกับแกนนำผู้ชุมนุม กระทรวงสาธารณสุขพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ขณะที่ ศูนย์บัญชาการการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข (ส่วนหน้า) รายงานยอดผู้บาดเจ็บจากสถานการณ์ทางการเมือง รวมตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. - 3 ธ.ค. ยอดผู้บาดเจ็บรวม 256 ราย เสียชีวิต 4 ราย 

บ่ายวันนี้ (3 ธันวาคม2556)  ที่โรงพยาบาลสงฆ์ กทม. นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ ตั้งแต่ 08.00-14.00 น. มีผู้บาดเจ็บจากการชุมนุมเพิ่มขึ้น 7 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี 2 ราย อีก 5 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหัวเฉียว จากแก๊สน้ำตา ในจำนวนนี้มีต้องนอนพักรักษาในโรงพยาบาลรามาธิบดี 1 ราย เนื่องจากมีเลือดออกในช่องตาดำ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

ขณะที่ ศูนย์บัญชาการการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข (ส่วนหน้า) รายงานยอดผู้บาดเจ็บจากสถานการณ์ทางการเมือง รวมตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. - 3 ธ.ค. เมื่อเวลา 08.00 น. ยอดผู้บาดเจ็บรวม 256 ราย เสียชีวิต 4 ราย คือ นายทวีศักดิ์ โพธิแก้ว อายุ 21 ปี  นายวิษณุ เภาฟู อายุ 26 ปี นายวิโรจน์ เข็มนาค อายุ 43 ปี และพลทหารธนะสิทธิ์ เวียงคำ อายุ 22 ปี ซึ่งรายของพลทหารธนะสิทธิ์ เพิ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา สำหรับยอดผู้บาดเจ็บรวมเฉพาะวันที่ 2 ธ.ค. มีทั้งสิ้น 129 ราย แบ่งเป็นบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา 76 ราย ถูกยิง 19 ราย และอื่นๆ 34 ราย กระจายอยู่ที่ รพ.ราชวิถี 4 ราย คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล 66 ราย รพ.กลาง 10 ราย รพ.รามาธิบดี 8 ราย รพ.มิชชั่น 1 ราย และ รพ.หัวเฉียว 40 ราย  
       
ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร รายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล ว่า ข้อมูลเมื่อเวลา 12.00 น. มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 134 ราย แบ่งเป็นคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล 66 ราย  รพ.หัวเฉียว 45 ราย รพ.ราชวิถี 4 ราย รพ.รามาธิบดี 7 ราย รพ.กลาง  10 ราย รพ.มิชชั่น 1 ราย  และ รพ.พระมงกุฏเกล้า 1 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต สำหรับผู้บาดเจ็บรวมตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2 ธ.ค. นั้น ผู้บาดเจ็บจากเหตุ ม.รามคำแหง เมื่อวันที่ 30 พ.ย. บาดเจ็บ 64 ราย เสียชีวิต 4 ราย เป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล 24 ราย  ผู้บาดเจ็บรอบทำเนียบรัฐบาล วันที่ 1 ธ.ค. บาดเจ็บ 58 ราย เป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล 3 ราย และผู้บาดเจ็บรอบทำเนียบรัฐบาลวันที่ 2 ธ.ค. บาดเจ็บ 134 ราย เป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล 8 ราย

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า ในการดูแลผู้ชุมนุมนั้น ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร จะเป็นแกนหลักในการรับผิดชอบรวมกับสำนักสาธารณสุขฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข มีการประชุมร่วมกันกับแกนนำของผู้ชุมนุม โดยในกลุ่มผู้ชุมนุมมีการจัดการดูแลสุขภาพของผู้ชุมนุมด้วยกันเอง ตามระบบที่กลุ่มผู้ชุมนุมจัดขึ้น ถ้ามีอะไรก็จะร้องขอ จะประสานมาที่ศูนย์เอราวัณ ซึ่งเราได้ยึดถือกติกานี้ตั้งแต่เริ่มออกปฏิบัติการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมเช่นที่ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ทีมของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจะเข้าไปคอยดูแลถ้ามีอะไรขาดเหลือก็จะสนับสนุน ซึ่งระบบที่วางไว้ร่วมกันมี 2 ระบบ คือ ระบบเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และระบบการดูแลประชาชนในการชุมนุม ศูนย์เอราวัณจะเป็นผู้ประสานกับแกนนำตลอด กระทรวงสาธารณสุขจะทำการสนับสนุนเมื่อถูกร้องขอ

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับการระดมทีมแพทย์ฉุกเฉินจากต่างจังหวัด นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์สุเทพ วัชรปิยานันทน์ ผู้ช่วยปลัดฯ  ได้วางระบบไว้ว่า ให้โรงพยาบาลในโซนที่อยู่ตรงกลางมาปฏิบัติหน้าที่ก่อน ส่วนโซนที่อยู่ปริมณฑล ให้เตรียมพร้อม ณ ที่ตั้ง เนื่องจากเดินทางมาได้รวดเร็ว ขณะนี้มีทีมปฏิบัติการส่วนหน้าที่มาจาก 25 จังหวัด โดยแต่ละจังหวัดจะสับเปลี่ยนกำลังโดยอัตโนมัติในจังหวัดตัวเอง เพื่อความต่อเนื่องในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ หากทีมปฏิบัติการส่วนหน้าไม่เพียงพอก็จะขอกำลังสนับสนุน ขึ้นกับการประเมินสถานการณ์วันต่อวัน หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ก็จะระดมมาทั้งหมด ในวันนี้ยังคงระบบปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินไว้ในระดับสูงสุดเช่นเดิม  โดยจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ  ถือว่าเป็นแผนเตรียมการขั้นสูงสุด

สำหรับในเรื่องการดูแลสุขภาพจิตในกลุ่มผู้ชุมนุม ในวันนี้ได้ส่งทีมสุขภาพจิตเข้าไปประเมินใน 3 กลุ่มคือ 1.ผู้ชุมนุมและแกนนำ 2.ทีมช่วยเหลือ 3.ผู้ได้รับผลกระทบหรือสูญเสีย ก็จะมีทีมสุขภาพจิตเข้าไปดำเนินการ โดยวันนี้จะเข้าไปในพื้นที่สนามม้านางเลิ้ง  ส่วนโครงกระดูกที่พบบนรถบัสที่ถูกเผานั้น ขณะนี้สถาบันนิติเวชวิทยา กำลังตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง