ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข ตั้ง นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจเขต 8 เป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบธรรมาภิบาลและเกณฑ์จริยธรรมการจัดซื้อยาและวัสดุต่างๆในการจัดบริการประชาชน เช่น วัสดุทันตกรรม วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นต้น กำหนดแล้วเสร็จใน 3 เดือน จะออกประกาศใช้ทั่วประเทศครอบคลุมทุกกรมวิชาการให้ทันปีงบประมาณ 2558 เน้นความประหยัด ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และมีระบบติดตามกำกับชัดเจน

นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ 

นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าการสร้างระบบธรรมาภิบาลในการจัดซื้อยา รวมทั้งวัสดุต่างๆ ของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข  ทั่วประเทศสนับสนุนนโยบายสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ว่า ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ 582/2557 แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบธรรมาภิบาล และเกณฑ์จริยธรรมการจัดซื้อจัดหายาและวัสดุต่างๆ 1 ชุด รวม 53 คน เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 โดยมีนายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน คณะกรรมการเป็นผู้แทนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลทุกระดับ มีหน้าที่พัฒนาข้อเสนอในการกำหนดระเบียบ กลไก ขั้นตอนการขับเคลื่อน การจัดทำแผน และแนวทางปฏิบัติของโรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งการประกาศเกณฑ์จริยธรรมการขายและการจัดซื้อจัดหายา วัสดุทันตกรรม วัสดุการแพทย์ วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ วัสดุสำนักงาน และจัดกระบวนการรับฟังความเห็นจากผู้บริหาร และข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอผลต่อผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขให้แล้วเสร็จใน 3 เดือน หลังจากนั้นจะออกเป็นระเบียบและประกาศใช้เป็นกรอบการปฏิบัติของสถานบริการทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกกรมวิชาการในปี 2558

นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย

ทั้งนี้ ระเบียบที่จะดำเนินการประกาศใช้มีทั้งหมด 3 ระเบียบ ได้แก่  1.ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการจัดซื้อจัดหายา เวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาต่างๆ รวมถึงวัสดุสำนักงาน 2.ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเกณฑ์จริยธรรมที่เกี่ยวข้อง และ3.ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรับ การสนับสนุน จากบริษัทผู้ผลิตและจำหน่าย หรือเกี่ยวกับเงินสวัสดิการ  ทั้งนี้ ต่อปี สถานพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ จัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ให้บริการแก่ผู้ป่วยและประชาชนปีละประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 ระเบียบนี้จะแสดงถึงความโปร่งใส ตรงไปตรงมา และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและระบบราชการ เป็นการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์ สอดคล้องกับสภาพปัญหาในพื้นที่

นายแพทย์วชิระกล่าวต่อว่า ในการจัดระบบติดตามประเมินผล และการรายงานผลความคืบหน้าหรือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้วางไว้ 5 ระบบ ได้แก่ 1.ระบบประมวลผล การกำกับ ในระดับจังหวัด ระดับเขต ระดับกรม 2.มีการกำหนดเป้าหมายของสถานบริการ โดยเน้นความประหยัด ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย 3.การจัดทำแผนประจำปี การอนุมัติแผนประจำปี ให้นายแพทย์สาธารณสุขอนุมัติ และแจ้งผู้ตรวจราชการรับทราบ 4.การมอบอำนาจการปรับแผนประจำปี และ5.การทำรายงาน ทุกไตรมาส และการสรุปผลประจำปี