ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งทุกจังหวัดกวาดล้างคลินิกเสริมความงามเถื่อน ย้ำเตือนประชาชนหากอยากสวยหล่ออย่างปลอดภัย อย่าหลงเชื่อโฆษณา ก่อนใช้บริการให้ตรวจดูหลักฐานสำคัญของคลินิก 3 อย่าง ได้แก่ ใบอนุญาตเปิดคลินิก ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์พร้อมรูปถ่าย และตรวจสอบแพทย์ที่รักษาต้องเป็นคนเดียวกับรูปในใบอนุญาต หากไม่พบหลักฐานนี้ให้สงสัยเป็นคลินิกเถื่อน แจ้งที่สายด่วนคุ้มครองผู้รับบริการสุขภาพ โทร 02 193 7999

จากกรณีข่าวชายหนุ่มฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูกจากคลินิกที่โฆษณาในโซเชียลมีเดียโดยไม่ทราบว่าเป็นคลินิกเถื่อน ทำให้ตาบอดหลังฉีด เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือดแดงที่ไปหล่อเลี้ยงดวงตา ส่วนอีก 1 ราย จมูกเน่า นั้น ความคืบหน้าวันนี้ (3 มิถุนายน 2557) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการให้สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งรับผิดชอบดูแลมาตรฐานสถานพยาบาลเอกชน ทั้งประเภทคลินิกและโรงพยาบาลเอกชนที่มีทั้งหมดเกือบ 18,000 แห่งทั่วประเทศ ให้เร่งกวาดล้างสถานพยาบาลเถื่อน โดยเฉพาะคลินิกเสริมความงาม ซึ่งมีการโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟสบุ๊ค อินสตาแกรมเป็นจำนวนมาก และยากต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ จึงต้องขอความร่วมมือจากประชาชนร่วมสอดส่องแจ้งเบาะแส เพื่อดูแลคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างไม่ละเว้น

นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เปิดช่องทางรับแจ้งเบาะแสจากประชาชน และส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ ดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญขอให้เร่งเผยแพร่ความรู้กับประชาชนทุกช่องทาง รวมทั้งสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบว่าเป็นคลินิกที่ถูกต้องกฎหมาย รักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริง อย่าหลงเชื่อการโฆษณา โดยไม่ได้ตระหนักว่าเป็นคลินิกเถื่อนหรือไม่ เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ทุกครั้งที่ไปใช้บริการขอให้ตรวจสอบหลักฐานสำคัญที่กระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้สถานพยาบาลทุกแห่งต้องปฏิบัติตาม คือ 1.ใบอนุญาตการให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล 2.ใบอนุญาตดำเนินการของสถานพยาบาล และจะต้องมีรูปถ่ายติดไว้ที่ใบอนุญาตดำเนินการให้เห็นอย่างชัดเจน และ 3. แพทย์ที่ให้การตรวจรักษาจะต้องตรงกับรูปถ่ายที่ติดไว้หน้าห้องตรวจในคลินิก หากเข้าไปใช้บริการแล้วไม่พบหลักฐานดังกล่าว หรือไม่ครบถ้วน ขอให้สงสัยว่าอาจเป็นสถานพยาบาลเถื่อน ให้แจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ หรือที่สายด่วนคุ้มครองผู้รับบริการสุขภาพ โทร 02 193 7999 ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านน.ต.นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ปัญหาการให้บริการคลินิกเสริมความงามเถื่อนที่พบบ่อย คือผู้ที่ทำการรักษาไม่ใช่แพทย์ และดำเนินการ 2 ลักษณะ คือลักลอบเปิดให้บริการเลียนแบบคลินิก มีผู้ให้บริการ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเป็นสถานพยาบาล และลักษณะหิ้วกระเป๋าไปให้บริการถึงที่ตามจุดที่นัดกันไว้ มักจะมีราคาถูก และบอกกันปากต่อปาก จึงขอเตือนประชาชนอย่าไปใช้บริการเสริมความงามกับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์อย่างเด็ดขาด เพราะเสี่ยงอันตรายสูงมาก ถึงขั้นพิการ เสียโฉม หรือเสียชีวิตได้

น.ต.นายแพทย์บุญเรือง กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีคลินิกที่ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคลินิกเถื่อน จะถูกดำเนินคดีฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการได้อีก มิฉะนั้นจะถือว่าผิดกฎหมายเช่นเดิม กรณีหมอเถื่อน จะถูกดำเนินคดีฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และขึ้นทะเบียน ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยในปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 - กันยายน 2556 ได้รับการแจ้งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสถานพยาบาลเถื่อนหมอเถื่อน 45 เรื่อง ได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว