ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมอนามัย เผยผู้สูงอายุไทยเพิ่มขึ้น คาดกว่า 2 แสนรายทั่วประเทศต้องใส่ฟันเทียม ลงพื้นที่ จังหวัดสุพรรณบุรี คืนรอยยิ้ม จับมือมูลนิธิโอสถสภา และจังหวัดสุพรรณบุรี มอบฟันเทียมพระราชทานแก่ผู้สูงอายุ 100 ราย สร้างสุขภาพช่องปากเพื่อสุขภาพที่ดี พร้อมเผยผู้สูงอายุ 236,000 รายทั่วประเทศ ยังคงต้องการใส่ฟันเทียม

วันนี้ (2 กรกฎาคม 2557) ทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธาน เปิดงานรณรงค์ฟันเทียมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ โรงแรมสองพันบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ว่า โครงการฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุอย่างต่อ เนื่องมาตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากครั้งล่าสุดในปี2555 พบว่า ผู้สูงอายุมีการสูญเสียฟันทั้งปากลดลงจากร้อยละ 8.2 เหลือร้อยละ 7.2 ความต้องการใส่ฟันเทียมทั้งปากลดลงจากร้อยละ 5เหลือร้อยละ 2.5 แต่จากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรสูงอายุ เมื่อคิดเป็นจำนวนผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องใส่ฟันเทียมทั้งปากจึงยังสูง ถึง236,000 ราย ซึ่งที่ผ่านมามูลนิธิโอสถสภาเป็นภาคีเครือข่ายหนึ่งที่ให้การสนับสนุนงบ ประมาณสำหรับการใส่ฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากหรือเกือบทั้ง ปากจากการจัดบริการปกติของภาครัฐ จังหวัดละ 100 ราย มาโดยตลอด สำหรับจังหวัดสุพรรณบุรีนับเป็นจังหวัดที่19 ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณรวม 596,000 บาท

ทันตแพทย์สุธา กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยได้ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุไทยมีฟันใช้เคี้ยวอาหารเพื่อสุขภาพและ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นภายใต้ 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1) การใส่ฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากหรือเกือบทั้งปาก 2) การสนับสนุนให้ผู้สูงอายุดูแลอนามัยช่องปากด้วยตนเองในกิจกรรมชมรมผู้สูง อายุด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก และ 3) พัฒนาการจัดบริการส่งเสริม ป้องกัน รักษาใกล้บ้านในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งจากกิจกรรมดังกล่าวทำให้ผู้สูงอายุที่มี ฟันแท้ใช้เคี้ยวอาหาร 20 ซี่ขึ้นไปตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 49 ในปี 2545 เป็นร้อยละ 58 ในปี 2555 และในปี 2557 กรมอนามัยได้ขยายการดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ โดยเริ่มพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพช่องปากในกลุ่มผู้สูงอายุที่พบโรคไม่ ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการสูญเสียฟัน และการติดเชื้อไปสู่ระบบอื่น ๆ ของร่างกาย รวมทั้งป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ปอดอุดกั้นจากการสำลัก เป็นต้น โดยดำเนินการตามนโยบาย 3 อ 2 ส และ 1 ฟ เพื่อปรับพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื่อรังกรมอนามัย โดย 3 อ คือ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ 2 ส คือ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา และ 1 ฟ คือ การดูแลสุขภาพเหงือกและฟัน ทั้งนี้ เบื้องต้นมีพื้นที่ร่วมพัฒนารูปแบบและคุณภาพบริการรวม 28 จังหวัด

"สำหรับการจัดกิจกรรมจังหวัดสุพรรณบุรีในครั้งนี้ นอกจากจะมีพิธีมอบฟันเทียมพระราชทานแก่ผู้สูงอายุ ทั้ง 100 รายแล้ว ยังมีการมอบโล่รางวัลให้ชมรมผู้สูงอายุที่ชนะการประกวดชมรมผู้สูงอายุดีเด่น ด้านงานส่งเสริมสุขภาพ ช่องปากระดับจังหวัด ปีงบประมาณ 2557 การแสดงเพลงอีแซวที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากโดย ขวัญจิต ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติ และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ รวมทั้งบรรยายให้ความรู้ด้านสุขภาพช่องปากแก่ประชาชนด้วย” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด