ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สภากาชาดไทยชี้ ข่าวค้าไตส่ง รพ. เอกชนไทย กระทบวงการเสื้อกาวน์ ทำประชาชนไม่มั่นใจ จนการบริจาคน้อยลง ผู้ป่วยเสี่ยงรอรับบริจาคเก้อ ระบุมีคนลงทะเบียนรอรับบริจาคไตแล้วกว่า 4,000 คน จี้ สธ. ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจผู้ป่วย หนุนบริจาคอวัยวะเพิ่มขึ้น

นพ.วิศิษฎ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวถึงกรณีสื่อกัมพูชารายงานข่าวการจับกุมชาวเขมรที่เป็นนายหน้าลักลอบขายไต โดยส่งมายัง รพ. เอกชนรายใหญ่ในประเทศไทย เพื่อทำการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายไต ว่า เรื่องนี้จะส่งผลกับภาพลักษณ์ของวงการแพทย์ไทย และผู้รอรับบริจาคไตแน่นอน ทำให้มีผู้บริจาคน้อยลง เนื่องจากอาจเกิดความไม่มั่นใจ สุดท้ายการบริจาคและรับไตก็ยิ่งน้อยลง ทั้งที่ยังมีผู้รอรับการบริจาคอีกมาก มียอดผู้ขึ้นทะเบียนขอรับบริจาคไตแล้วมากถึง 4,000 คน สาเหตุที่มียอดผู้รอรับบริจาคมาก เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่อาศัยการล้างไต และรอเวลาปลูกถ่ายเปลี่ยนไต ซึ่งจะทำให้กรณีไตเสื่อม จนไม่สามารถล้างได้อีกแล้ว อีกทั้งผู้บริจาคมีน้อย บางรายก็ไม่มีภาวะสมองตาย สำหรับประเทศไทย อนุญาตให้มีการเปลี่ยนได้ตามกฎหมาย 3 กรณี คือ 1. ต้องเป็นพี่น้อง สายเลือดเดียวกัน 2. สามีภรรยาตามกฎหมาย 3. ผู้ที่อยู่กินกันฉันสามีภรรยาไม่น้อยกว่า 3 ปี เพื่อป้องกันปัญหาการซื้อขายไต
       
นพ.วิศิษฎ์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการซื้อขายที่เกิดขึ้น ต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ไข โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะที่มีโรงพยาบาลในสังกัดมากที่สุด ควรเร่งทำการประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับผู้ป่วย สนับสนุนให้มีการบริจาคอวัยวะให้มากขึ้น ในกรณีผู้ป่วยที่เสียชีวิต เพราะ 1 ร่างของผู้บริจาค สามารถนำไต 2 ข้าง ไปช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ถึง 2 คน และในส่วนของแพทยสภาควรเรียกโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง