ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คตร.ถกผลสอบการบริหารกองทุนบัตรทองของ สปสช. ไร้ข้อสรุป เหตุขาดข้อมูลหลักฐานจากสำนักงบฯ แจงตามกฎหมายหลักประกันสุขภาพฯ ต้องมีการตีความถึงวัตถุประสงค์การใช้งบด้วย ส่วนการเบิกจ่าย จัดสรร ก็มีกฎหมายและประกาศอื่นๆ มาเกี่ยวข้อง แจงอาจไม่ใช่ถึงกับผิด ต้องใช้หลักรัฐศาสตร์ประกอบ รับลำบากใจ แต่ต้องให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด คาดประชุมอีกครั้งจึงจะได้ข้อสรุปเพื่อส่งเรื่องให้นายกฯ ต่อไป และต้องแก้ไขระเบียบให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์

22 เม.ย.58 เว็บไซต์สยามรัฐรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ว่าด้วยการตรวจสอบประสิทธิภาพการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) และตรวจสอบการใช้งบประมาณและการดำเนินโครงการในคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสกสค.กระทรวงศึกษาธิการ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.มีคำสั่งอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57

จากนั้นเวลา 17.00 น.พล.อ.อนันตพร ได้เดินทางกลับมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ที่ห้องทำงานชั้น 2 ตึกบัญชาการ1 โดยมีนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) และในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) หลังที่ประชุมคตช.เมื่อวันที่ 21 เม.ย.มีมาตรการต่างๆออกมาในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และเตรียมโยกย้ายข้าราชการนอกฤดูกาล

สปสช.ยังไม่จบรอเอกสารสำนักงบฯ

ต่อมา 18.30 น.พล.อ.อนันตพร เปิดเผยว่ากรณีของสปสช.ยังขาดข้อมูลหลักฐานบางส่วนของสำนักงบประมาณ เพราะต้องการดูเรื่องของการจัดสรรงบฯ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าตัดสินใจโดยข้อมูลไม่ครบถ้วน เพราะ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พ.ศ.2545 ต้องมีการตีความถึงวัตถุประสงค์การการใช้งบประมาณด้วย และการเบิกจ่าย จัดสรร จะมีกฎหมายและประกาศอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นต้องมาตีความว่าเกิดการขัดแย้งข้อกฎหมายหรือไม่  จากนั้นมาดูถึงความเหมาะสมว่า สุดท้ายแล้วดูว่าประโยชน์ที่เกิดกับประชาชนคืออะไร ระเบียบไม่เอื้ออำนวยอย่างไร มีการใช้กฎหมายตัวไหนมาอ้าง แล้วตีความไม่เหมือนกันหรือไม่ ขณะที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ก็เดินหน้าตรวจสอบไปตามระเบียบ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวอาจจะไม่ใช่ถึงกับผิดก็ได้ ซึ่งคตร.จะดูถึงประโยชน์ที่ได้รับ เรื่องนี้ยอมรับว่าลำบากใจ เพราะต้องดูรัฐศาสตร์เข้ามาประกอบด้วย คือประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้จะสอบให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด คาดว่าประชุมอีกครั้งหนึ่งจะได้ข้อสรุป เพื่อส่งเรื่องให้กับนายกฯ และจะต้องมีการแก้ไขระเบียบให้ชัดเจนต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก

เตรียมบุกศธ.ตรวจสอบ 3 หน่วยงาน

พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า ในส่วนการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินงานโครงการต่างๆของคณะกรรมการทั้ง 3 ชุดของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ประชุมคตร.ได้เชิญตัวแทนจากคณะกรรมการทั้ง 3 ชุด มารับทราบว่าทางคตร.จะเข้าตรวจสอบทั้ง 3 หน่วยงานที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยให้กลับไปประชุมเพื่อจัดเตรียมเอกสารให้พร้อม ถ้าเป็นไปได้ทุกอย่างเรียบร้อยจะเข้าตรวจสอบภายในสัปดาห์นี้ และเพื่อพูดคุยว่าการตรวจสอบครั้งนี้เพื่อเข้าไปแก้ไขพัฒนาองค์กรให้ดีขึ้น ที่อาจจะดีอยู่แล้วบางส่วน บางส่วนไม่ดี และถ้าดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ ตนว่าส่วนใหญ่น่าจะดีใจถ้าเป็นการทำให้เกิดความโปร่งใส