ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัด สธ.เผยระบบการป้องกันควบคุมโรคเมอร์ส ทุกจังหวัดพร้อมรองรับผู้เดินทางกลับจากการแสวงบุญ ทั้งการคัดกรองที่สนามบิน การป้องกันการแพร่เชื้อใน รพ. การซ้อมแผนรับมือหากพบผู้ป่วย ห้องแยกและสถานที่รับตัวไว้สังเกตอาการ รวมทั้งกำชับให้เร่งทำงานเชิงรุกป้องกันโรคไข้เลือดออก หลังพบผู้ป่วยสูงกว่าปีที่ผ่านมา 2.5 เท่า

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2558 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิทัศน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ เพื่อติดตามความพร้อมระบบป้องกันควบคุมโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง รองรับผู้เดินทางกลับจากการแสวงบุญที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ว่า ได้ให้ทุกจังหวัดได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด หรือวอร์รูม ติดตามสถานการณ์โรคเมอร์สอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อม ทั้งด้านอุปกรณ์ป้องกันโรค เช่นหน้ากากอนามัย ชุดป้องกันโรค ห้องแยกโรคดูแลผู้ป่วยแบบความดันลบ รวมถึงซ้อมแผนหากพบผู้ป่วยเดินทางกลับจากตะวันออกกลางผ่านทางสนามบิน พบว่าขณะนี้เกือบทุกจังหวัดได้ซ้อมแผนรับสถานการณ์แล้ว และจะครบทุกจังหวัดในสัปดาห์หน้า

ส่วนการเตรียมการรับผู้ที่จะกลับจากพิธีฮัจญ์ 10,400 คน ซึ่งจะเดินทางกลับรอบแรกในวันที่ 26 กันยายน 2558 นี้ ได้ย้ำให้ 14 จังหวัดภาคใต้และจังหวัดที่มีผู้แสวงบุญเดินทางไปมาก และสนามบิน 4 แห่งได้แก่ สนามบินภูเก็ต หาดใหญ่ นราธิวาส และสุวรรณภูมิ เข้มข้นระบบการเฝ้าระวัง เริ่มตั้งแต่การคัดกรองผู้เดินทางออกจากเครื่องบิน โดยทีมเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รวมทั้งจัดส่งรายชื่อผู้เดินทางพร้อมเที่ยวบินกลับให้แก่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เพื่อติดตามอาการต่อที่บ้านหลังจากกลับจากซาอุดิอาระเบียแล้วจนครบ 14 วัน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังตามมาตรฐานที่วางไว้ สำหรับพื้นที่รับตัวไว้สังเกตอาการ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการ ขณะนี้โรงพยาบาลทุกแห่งได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ส่วนสถานที่นอกโรงพยาบาล เช่นจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี นราธิวาส ได้เตรียมพื้นที่ที่จำเป็น เช่นค่ายทหาร เพียงพอตามมาตรฐานที่วางไว้ 

นอกจากนี้กรมควบคุมโรคมีระบบการประสานงานกับทีมแพทย์ที่เดินทางไปดูแลผู้แสวงบุญที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ทุกวัน ในวันนี้ได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยปอดบวม 2 คน ไม่มีอาการสัมพันธ์กับเมอร์ส เชื่อว่าทุกจังหวัดสามารถดำเนินการตามระบบที่วางไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถตรวจจับได้เร็ว และนำผู้ที่จะต้องสังเกตอาการมารับการดูแลครบทุกคน

นพ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า อีกโรคที่น่าห่วงคือโรคไข้เลือดออก เนื่องจากขณะนี้อยู่เป็นช่วงสูงสุดของการระบาด ข้อมูลตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 ถึง 8 กันยายน 2558 พบผุ้ป่วย 66,714 คน เสียชีวิต 54 คน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 2.5 เท่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยถึง 7,000 ราย พบมากในภาคกลางและตะวันออก ได้กำชับให้ทุกจังหวัดใช้กลไกวอร์รูมระดับจังหวัดร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ทำงานเชิงรุก และระดมความร่วมมือท้องถิ่น ในการกำจัดลูกน้ำยุงลายและการพ่นหมอกควันกำจัดยุงลายในพื้นที่ นอกจากนี้ ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตั้งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป เป็นที่ปรึกษาแก่แพทย์ในโรงพยาบาลชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาและการส่งต่อผู้ป่วย ลดการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด